วันนี้ผมจะมาแชร์ทริปที่พาลูกกับครอบครัวไปเทียวประเทศไตหวันครับ อันนี้ไปช่วงเดือนกลางเดือนตุลาคมครับ เป็นช่วงที่ยังมีฝนอยู่บ้างเล็กน้อยครับ แต่ตอนไปนี้เจอฝนสองวันครับ ก็ยังพอได้เทียวช่วงวันฝนตก ผมจะเริ่มต้นเล่าเลยแล้วกันนะครับ โดยเรียงลำดับตามวันที่เทียว โดยทริปนี้ตัวผมเองก็ไม่สบายตั้งแต่ก่อนไปเทียวแล้วด้วยครับ ป่วยมีไข้เหมื่อยตัวขยับตัวไม่ไหวเลย จัดว่าเป็นอีกทริปที่เหนื่อยตั้งแต่ยังไม่เทียวเลย
วันที่ 1 วันเดินทางไปยังไทเปและปัญหาจองโรงแรมผิด
เริ่มบินจากสนามบินเชียงใหม่เวลา 15.10 น. ถึงที่สนามบิน Taiwan Taoyuan Internetnational airport เวลา 20.00 น. นั่งเครื่องไปประมาณ 5 ชั่วโมง สายการบิน Airasia ที่นั่งก็ทำการอัปเกรดเป็น Hot Seat นั่งสบายครับ ไม่ลำบากมาก ลูกก็ไม่โวยวายแล้วครับเพราะโตแล้ว(4 ขวบ) ถึงสนามบินเราก็นั่งรถไฟฟ้าไปยังที่พักต่อเลย โดยไปถึงที่โรงแรมเจอปัญหาทันทีครับ เพราะแฟนจองห้องพักผิดเดือน เป็นการจองห้องพักวันเดียวกันนี้ของเดือนหน้าเลย งานเข้าที่สุด ตอนแรกจองไว้ 2 คืน ต่อรองที่โรงแรมเขาให้เราได้แค่ 1 คืนเดียวคือคืนที่เราไปถึงเลยก็ยังดีครับ ที่ไม่ต้องหาที่พักใหม่ในคืนนี้ โรงแรมชื่อ Click Hotel – Taipei Main Station Branch ครับห้องพักกว้างเลย ด้านหน้าก็มีของเล่นของเด็กให้เล่นได้ด้วยลูกสาวนี้ชอบมากๆ ไม่อยากย้ายโรงแรมไปไหนเลย แต่ก็ต้องย้ายครับเพราะอีกคืนห้องพักเต็มเลยไม่สามารถนอนต่อได้
วันที่ 2 เทียว Yehliu geopark , น้ำตก Shifen Waterfall,จิ่วเฟิ่น Shifen Old Street ปิดท้ายด้วยชาบูดังกลางเมืองไทเป
8.30 เราออกไปหาข้าวกินที่เซเว่นครับ ซึ่งเดินไปเพียง 3 ช่วงตึกเท่านั้นเองใกล้ที่พักมากๆ หลังนั่งกินอะไรกันเสร็จแล้วก็เริ่มเดินทางครับ โดยวันนี้ทั้งวันเราจองรถตู้พาเราเทียวไว้ ซึ่งสมาชิกที่ไปด้วยกันทั้งหมดมี 7 คนครับการเช่ารถตู้พาเทียวเลยคุ้มค่ามากๆ จุดแรกที่ไปคือ Yehliu geopark ครับเป็นจุดที่ไม่ได้วางแผนไว้ว่าต้องมานะแต่รถเขาแวะเลย ก็ลงเลยแบบงงๆ ครับ 55+ที่นี้เป็นจุดชุมวิวที่ดูหินโดนน้ำทะเลกัดเซาะเป็นรูปทรงสวยงามมากครับ มีค่าเข้าด้วยครับไม่แพงมากแต่จำไม่ได้เท่าไร ที่นี้ใช้เวลาเทียวอยู่ประมาณ 30 นาทีครับ หลังจากนั้นก็ไปที่น้ำตก Shifen Waterfall ตรงนี้ฝนตกค่อนข้างหนักมากส่วนตัวผมเองนั้นไม่ได้ลงรถครับเลยให้คนอื่นไปเทียวกันแล้วรอที่รถ ทุกคนพูดว่าสวยมากก หลังจากที่ออกจากน้ำตกจุดหมายต่อไปก็คือจิ่วเฟิ่น ไทเป Shifen Old Street ครับที่นี้ฝนหยุดตกแล้วเราจึงเดินเทียวกันได้สะดวกเลย โดยวันที่เราไปเดินเป็นวันเสาร์ครับ อยากจะบอกว่าแทบไม่มีที่หายใจเลยคนเยอะมากๆ จนต้องอุ้มลูกเดินครับ โดยความโชคดีของเราคือไม่ได้เอารถเข็นเด็กขึ้นมาด้วยครับ ถ้าเอาขึ้นมาบอกเลยว่าได้เดินเอาไปเก็บแน่นอนเพราะทางเดินไม่กว้างมากพอเดินผ่านได้เพียง 3-5 คนครับ คนที่มาเที่ยวก็หลักพันคนเลย เห็นแต่หัวคนครับ แต่มาถึงแล้วก็ต้องเทียวครับ เลยเดินเข้าไปลึกๆ เลย ยิ่งลึกจำนวนคนก็เริ่มน้อยลงๆ ไปเรื่อยๆ ครับ จนแทบไม่มีคนเลย ที่นี้เราใช้เวลาเทียวกันราวๆ 4 ชั่วโมงได้ครับ เป็นสถานที่ที่ประทับใจมากเพราะสวยงามมากๆ โดยเราได้เลือกทานน้ำชาที่ร้าน ที่วิวสวยที่สุดครับชื่อร้าน ShanHaiGuan Hotel แล้วก็เดินซื้อของไปกินไปเรื่อยๆ จนถึงเวลากลับก็ไปที่พักใหม่เลยครับรอบนี้พักใกล้ๆ กันกับที่พักเดิมเพราะไม่มีเวลาหานานมาก คือโรงแรม Oxygen Hotel Taipei Main Station ครับ ข้างล่างคือเซเว่นที่เราไปซื้อข้าวกินกันตอนเช้านั้นเอง กลับมาถึงเราก็เลือกไปกินชาบูเจ้านี้กันต่อครับ 一番地壽喜燒 開封店 โดยสุ่มเลือกจาก google map ครับ เข้าไปนี้ร้านดูดีมาก ภายในตกแต่งสวยงาม ชาบูและน้ำจิ้มก็อร่อยดีเลยครับ ราคาแพงอยู่เหมือนแต่ถือว่าคุ้มค่า หลังจากนั้นก็ไปเดินย่อยอาหารที่ในสถานีรถไฟต่อครับไม่นานก็กลับ จบวันนี้ถือว่าเหนื่อยมากครับ เพราะเดินทางไกลและฝนตกกลับมานี้ป่วยต่อเลย โดยวันนี้ที่สามารถเทียวได้ทั้งวันนี้เพราะอัดยาพาราตลอดครับ ก็โชคดีที่ยังพอไหวเพราะมีคนไปด้วยเยอะเลยไม่ต้องลำบากดูลูกคนเดียวครับ เอาตัวเองรอดก็พอ ฮ่าๆ
วันที่ 3 ไปเทียว Sun Moon Lake, Taichung City, ขึ้น Sun Moon Lake Ropway สุดโรแมนติก
วันนี้เป้าหมายของเราคือไปที่ Sun Moon Lake ครับ เช้ามาเราก็ต้องนั่งรถไฟฟ้าไปยังเมือง Taichung City ใช้เวลาในการนั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูง 1.10 ชม. ไปถึงต่อรถทัวร์ขนาดเล็กต่อครับอีก 2 ชั่วโมง ต้องลงมาด้านล่างของสถานีรถไฟอีกทีนะครับจะมีเค้าเตอร์ขายตั๋วอยู่ รถทัวร์นั่งสบายครับ หลังจากไปถึงเราก็ต้องเดินไปที่โรงแรมของเราเองครับซึ่งติดกับทะเลสาบเลย ชื่อโรงแรม Shui sha lian hotel ครับ โดยตอนลงรถก็จะมีคุณป้าเดินมาบอกให้เราซื้อตั๋วสำหรับข้ามทะเลสาบครับตรงนี้ไม่ต้องตกใจครับ สามารถซื้อตรงนี้ได้เหมือนกัน เขามาดีครับ แต่ผมเลือกไปซื้อที่เค้าเตอร์ครับเพราะของเยอะและลูกเดินไปเดินมาไม่สะดวกครับ หลังไปที่พักหาข้าวทานเสร็จก็บ่ายสามแล้วครับ จึงรีบนั่งเรือไปเทียวต่อเพื่อขึ้น Sun Moon Lake Ropway ที่เดียวเลยครับเพราะเวลาที่เราไปมันไม่พอสำหรับจะไปที่อื่นแล้ว เราจึงนั่งเรือไปลงที่ท่าเรือ Yidashao wharf และขึ้นเดินไปขึ้น Sun Moon Lake Ropway ระยะทางจากท่าเรือถึง Ropway ประมาณ 1.3 กม. เดินขึ้นดอยลงดอยนิดหน่อยครับ เหนื่อยกำลังดีเลย ไปถึงนั่ง Sun Moon Lake Ropway ประทับใจมากครับเพราะสวยมากๆ โดยเรานั่งไปไม่ถึงสวนสนุกครับนั่งไปครึ่งทางแล้วกลับ ขากลับยิ่งสวยที่สุดเลยเพราะเป็นช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดินพอดี ทั้งวิวทะเลสาบ ภูเขา ต้นไม้ พระอาทิตย์ ทุกอย่างมันดูลงตัวที่สุด จนอยากหยุดเวลาไว้ที่นี้เลยครับ ช่วงที่นั่งมาเราจึงเข้าใจเลยว่าทำไมที่นี้ต้องชื่อ Sun Moon Lake Ropway ถ้าไม่ได้มาดูกับตาก็คงไม่เชื่อว่ามีที่สวยๆ แบบนี้ด้วย หลังนั่ง Ropway ลงมาเราก็ไปนั่งอยู่ริมทะเลสาบเพื่อนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินกันต่ออีกทีครับ ชีวิตนี้อยากมาที่นี้อีกหลายๆ ครั้งเลย หลังพระอาทิทย์ตกดินไปเราก็เดินกลับไปที่ Shui Sha Lian street กลับมาถึงช่วงค่ำ ที่นี้คึกคักเป็นพิเศษเลย มีการแสดงกายกรรม และเล่นบับเบิลครับ สนุกสุดๆ ตื่นตาตื่นใจดีครับ เด็กๆ ชอบมากๆ ด้วยบรรยากาศริมทะเลสาบด้วยการแสดงบับเบิลของเขาเป็นที่จดจำขึ้นใจของพวกเราทุกคนเลย จากนั้นก็นั่งเรือกลับ มาถึงก็เดินเทียวหาร้านอาหารทานครับ สุดท้ายไปซื้อข้าวเซเว่นมากินที่ห้องแทนเพราะเหนื่อยทั้งการเดินทางและไปเทียวเราก็เลือกที่อยากจะพักหมดไปอีกหนึ่งวันครับ
วันที่ 4 ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ Sun Moon Lake แล้วเดินทางไปเทียว Alishan National Forest
ตื่นเช้ามานี้เราเปิดหลังห้องก่อนเลยเป็นอย่างแรกเห็นพระอาทิตย์กำลังขึ้นด้วยจากโรงแรม Shui sha lian hotel เราก็ได้เก็บภาพและวีดีโอประทับใจมาไว้เต็มอิ่มเลย สวยงามมากๆ ครับ ใครมาพักที่ Sun Moon Lake ต้องเลือกที่พักติดทะเลสาบเท่านั้นนะครับ ไม่งั้นพลาดมากๆ เลย วิวสวยๆ แบบนี้หาได้เฉพาะบนโรงแรมสูงๆ เท่านั้น หลังจากนั้นช่วง 8 โมงเราก็นั่งรถบัสเพื่อออกเดินทางไปยัง Alishan National Forest สถานที่เทียวที่ถัดไปของเราวันนี้ โดยใครเมารถต้องทานยาไว้เลยครับเพราะขึ้นเขามีแต่โค้งด้วยเหมือนเป็นญาติกับทางไปปาย แม่ฮ่องสอนเลยครับ แถมยังนั่งรถยาวนานถึง 3 ชั่วโมงด้วยกัน ไม่เมาก็ต้องเมาครับ ส่วนลูกของผมก็อ๊วกไป 3 รวบกว่าจะถึงส่วนตัวพ่อกับแม่โชคดีที่ยังไม่เมารถเพราะได้ที่นั่งด้านหน้าพอถึงที่หมายเราก็เดินไปที่พักกันเองครับ ก็ค่อนข้างไกลอยู่เหมือนกันเพราะเราพักที่ Ali-Shan Kaofeng Hotel ระยะทางจาก Alishan Bus Station เดินมาก็ประมาณ 700 เมตรครับ แต่อยากจะบอกว่าต้องเดินขึ้นภูเขาชันมากๆ ลากกระเป๋าหนัก 20 โลด้วยเกือบตายครับ 555+ แต่สนุกครับได้ออกกำลังกายหลังนั่งรถมานาน หลังเก็บกระเป๋าเสร็จเราก็เทียวกันต่อเลย โดยไปเทียวที่ Alishan National Forest ครับเขาจะให้เรานั่งรถไฟไปแล้วไปเดินเทียวสถานที่เป็นธรรมชาติมากๆ ต้นไม้ใหญ่ วิวสวยๆ อากาศเย็นๆ เนื่องจากที่นี้เป็นภูเขาครับการเดินเทียวของเราจึงเดินขึ้นเขาลงเขาไปพร้อมกับแบกลูกสลับให้เขาเดินเองครับ และต้องใส่เสื้อกันหนาวหนาๆ มาเลยเพราะหนาวมากๆ ครับ กว่าจะเดินจบก็เกือบมึดเลยครับที่นี้ หลังจากนั้นก็กลับเข้าที่พักและอาหารมากินที่พักเลยเพราะไม่ไหวจะไปไหนกันแล้วครับ ที่พักเราต้องเดินขึ้นดอยไปเพื่อไปซื้อข้าวครับ เลยใช้วิธีการฝากเพื่อนๆ ไปซื้อกันแทน กลับมานอนพักเฉยๆ ก็ฟินแล้วครับ ที่นี้อากาศจะอยู่ที่ราวๆ 4 องศาครับ เรียกว่าถ้าออกนอกที่พักคือมือแข็งเลย ส่วนตัวผมชอบการที่ได้มานอนที่นี้มากครับ ตอนแรกตั้งใจมาดูใบไม้เปลี่ยนสีแต่เจอน้อยมากๆ แต่ก็ยังเจอครับ หมดไปอีก 1 วันที่เรียกได้ว่าแบตไม่เหลือเลยครับร่างกายจะพังมากๆ ทั้งเดินทางไกลและเทียวใช้พลังงานเยอะ
วันที่ 5 กลับเข้าตัวเมือง Taichung City , เดินช้อปปิ้งที่ TAROKO MALL และ Feng Chia Night Market
สำหรับวันนี้เป้าหมายของเราคือไปที่ขึ้นรถไฟฟ้าที่ Chiayi Station เพื่อเดินทางไปยัง Xinwuri ตัวเมือง Taichung City ครับ เช้าๆ นี้ตื่นสายเลยต้องเดินไปที่ Alishan Bus Station เองครับ ไปถึงเพื่อรถขึ้นบัส แต่ระหว่างรอนั้นมีคนเดินมาถามว่าเราอยากไปที่ไหน เขาเป็นคนขับรถตู้จะไปส่งเราให้ ซึ่งตอนแรกเราลังเลมากๆ กลัวโดนโกงมากครับ เลยอัดวีดีโอไว้และไปถามเจ้าหน้าที่สถานีว่าจะเป็นอะไรไหมเขาก็บอกไม่ได้ครับ สุดท้ายมาเราก็เสี่ยงดวงขึ้นไปกับเขาครับเพราะออกเดินทางได้ทันที ไม่ต้องรอรถรอบถัดไป และประหยัดกว่า สุดท้ายแวะ 1 รอบครับเพื่ออ๊วกหลังจากยาแก้เมาออกฤทธิ์ก็หลับยาวจนถึงสถานี Chiayi Station เลย ตรงนี้เราให้ลูกกินยาแก้เมาเหมือนกันครับเขาก็หลับพร้อมๆ เราเลย สบายมากๆ ใช้เวลาประมาณ 1.15 ชม. ครับ และนั่งรถไฟฟ้าต่อไปอีก 45 นาที เพื่อไปที่สถานที่ Xinwuri จากนั้นก็ถ่ออีกต่อไปที่ Taichung Station ประมาณ 15 นาที แล้วเดินอีกนิดก็ถึงที่พักใหม่ของเราเลยคือโรงแรม Twinstar Hotel ครับตรงนี้เราได้พักห้องพักขนาดใหญ่ขึ้นมาด้วย ประทับใจสุดๆ ครับ แถมยังอยู่ติดห้างใหญ่อย่าง TAROKO MALL Taichung อีก เราก็เอาของไปเก็บแล้วก็มาเดินเทียวห้างเพื่อซื้อของฝากกันอย่างสนุกเลยครับ แถมยังมีโซนของเด็กอีกทั้งชั้นด้วยนะครับ ที่นี้แนะนำเลยว่าน่ามาพักจริงๆ ครับ พอถึงช่วงค่ำเราก็เดินทางไปเทียวที่ตลาด Feng Chia Night Market กันครับที่นี้ช้อปปิ้งอาหารและของฝากสนุกเลย อาหารเยอะมากๆ และของฝากที่ดีๆ ก็เยอะมากเช่นกัน คนไม่เยอะมากจนเกินไปด้วยครับ เรานั่ง taxi มาจากที่พักใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็ถึงครับ หมดวันนี้แบบง่ายๆ ครับ
วันที่ 6 เทียว Landmark ของเมือง Rainbow Village , Miyahara Ice Cream แฮรี่พอตเตอร์ รอคิวกินชาบูชื่อดัง Mo-Mo-Paradise กลับเข้าเมืองไทเปเดินช้อปปิ้งที่ Ximending Walking District (ไทเป)
ตื่นเช้ามาที่โรงแรมมีอาหารเช้าให้ครับ อร่อยมากและดีมากๆ ครับหลังจากนั้นก็หากาแฟทานครับที่ห้างโดยเราเลือกทานร้าน Come true coffee ซึ่งใช้เครื่อง lamarzocco เป็นที่การันตรีคุณภาพความอร่อยของกาแฟแน่นอนครับ ซึ่งก็อร่อยมากจริงๆ โดยด้านหน้าห้างมี Starbuck อยู่นะครับหากใครไม่สนใจกาแฟของร้านนี้ ทานจนอิ่มแล้วก็เลือกที่จะไปเทียวที่หมู่บ้าน Rainbow Village กันต่อครับ อากาศนี้เรียกกว่าไม่ไหม้เลย แดดแรงสุดๆ (มุกใช่ไหม 55) แต่ก็แปลกตาดีนะครับเหมาะกับการมาถ่ายรูปอย่างเดียวเลย ลูกไม่ค่อยอินเท่าไรครับนอกจากกินไอติมเท่านั้น จริงๆ ถ้าไม่มีเวลาก็ไม่ต้องมาก็ได้ครับสำหรับที่นี้ หลังถ่ายรูปจนอิ่มก็ไปที่ Miyahara Ice Cream กันครับที่นี้มีร้านขายของฝากด้านหน้าตึกนี้ออกแบบมาคล้ายกับในหนังแฮรี่พอตเตอร์เลย ที่นี้สนุกมากครับเพราะข้างในตกแต่งสวยงามมีร้านของฝาก ร้านอาหาร ร้านไอศรีมอร่อยๆ ด้วย ใช้เวลากับที่นี้เยอะมากครับ จากนั้นก็เดินกลับไปที่ TAROKO MALL เพื่อไปกินชาบูกันชื่อร้าน Mo-Mo-Paradise 台中新時代牧場 ครับราคาไม่แพงเท่าไร แต่เขาเปิดเป็นเวลาครับมีเวลาพักช่วงบ่ายด้วยต้องดูให้ดีก่อนเข้ามาครับ อร่อยใช้ได้ครับสำหรับชาบูที่นี้ ส่วนตัวผมตั้งแต่มากินชาบูรู้สึกน้ำจิ้มเขายังไม่สุดครับ อยากพกน้ําจิ้มซีฟู้ดจากบ้านเรามาด้วยจริงๆ เลย 555+ หลังจากนั้นอีกกิจกรรมคือ shopping ครับที่ห้างนี้เลย แล้วก็เดินทางไปที่ไทเปกันโดยนั่งรถไฟไปประมาณ 45 นาทีครับ จากนั้นก็เข้าไปที่พักชื่อ City Suites – Main Station ครับโดยที่นี้เป็นโรงแรมที่ไม่มีพนักงานเค้าเตอร์ครับเราต้องเช็กอินเอง ที่พักก็หายากนิดหน่อยเราก็เดินหลงกันไปมาสักพักถึงจะมาเจอเหมือนกัน ไม่เข้าใจเหมือนกันนะครับว่าทำไมถึงหลง เพราะ google map พาหลงครับ ครั้งหน้าคงไม่มาพักแถวนี้อีกละรู้สึกแปลกๆ ครับ โดยโซนที่พักก็ไม่ค่อยมีอะไรมากด้วยมีแต่ตึกที่พักอาศัยของคนในพื้นที่ไม่มีร้านอาหารหรือแหล่ง shopping อะไรด้วยเลยครับ หลังเอาของเก็บเราพักผ่อนสักแปปและค่ำๆ ก็เดินเท้าไปที่ Ximending Walking District แหล่ง shopping ขนาดใหญ่ของเมืองนี้กันครับที่นี้สินค้าเป็น shop มีแบรนด์เยอะมาก ราคาก็ไม่ได้ถูกกว่าที่ในสถานีเท่าไรครับโดยส่วนมากจะแพงกกว่าด้วยแต่ก็ถือว่ามาเดินสนุกๆครับ และที่นี้หาร้านอาหารค่อนข้างยากมากๆ ครับ แนะนำให้ทานข้าวมาก่อนนะครับ ค่อยมาเดินที่นี้ จบวันนี้เราก็กลับไปนอนหลับพักผ่อนครับโดยทริปวันหลังๆ ของเราสบายๆ กันมากครับ
วันที่ 6 วันสุดท้าย กลับบ้านด้วยความอิ่มและหนักกระเป๋ามาก!
วันนี้หลังออกโรงแรมเราก็เอากระเป๋าไปฝากที่สถานีเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดินกลับมาเอาที่โรงแรมเพราะมันไกล จากนั้นก็เดินซื้อของฝากและหาข้าวทานในสถานีนี้เลยครับ โดยที่สถานีนี้นั้นเราสามารถเอากระเป๋าของเราฝากไปโหลดขึ้นเครื่องได้เลยนะครับ ถือว่าสะดวกสบายมากๆ แต่ต้องดูเวลาให้ดีครับเพราะเขาจะมีเวลาสำหรับการฝากอยู่ จนได้เวลาก็นั่งรถไฟไปที่สนามบินกัน และขึ้นเครื่องบินกลับบ้านกันครับ
บทสรุปสำหรับทริป การมาไต้หวันนี้ผมประทับใจ Sun moon lake มากครับ หากครั้งหน้ามีโอกาศจะมานอนที่นี้สัก 2 คืนเลย ส่วนจิ่วเฟิ่นนั้นก็สวยดีครับ แต่คนเยอะหากเลือกได้ครั้งหน้าก็จะมาเทียวช่วงวันปกติหรือวันทำงานคิดว่าคนน่าจะน้อยลงไปเยอะ ตัวเมืองที่ชอบอีกเมืองคือเมือง Taichung ครับที่นี้เทียวสนุกและอาหารราคาประหยัดมากๆ (จริงๆ ถูกทุกที่) ราคาไม่ต่างกับอยู่เชียงใหม่เลย ค่าครองชีพเขาถูกมากครับ หากมีโอกาศยังไงก็กลับไปเทียวอีกแน่นอนครับ สำหรับวันนี้ผมก็ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะครับ หากอยากให้ผมขยายความหรืออธิบายทริปตรงไหนเพิ่มให้แอดไลน์มาได้ครับที่ไลน์ @908gnsvb