ออมกับตัน ทุกงานเลี้ยงย่อมต้องเลิกราไม่ว่างานเลี้ยงเหล่านั้นจะสนุกสนานสร้างความสุขให้เราและคนรอบข้างซักเท่าไรก็ตาม ก็คงเป็นเช่นเดียวกับการทำงานของผมที่บริษัท โออิชิกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แทบทุกวันที่ผมเดินเข้าออกบริษัทฯ เพื่อไปทำงานหมายถึงการใช้เวลาอยู่ร่วมกับพนักงานทุกระดับชั้นกว่า 5,000 คนจนกลายเป็นครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่น แต่ในที่สุดก็เดินทางมาถึงวันลาจากจนได้
ในคืนวันนั้นพนักงานจัดงานเลี้ยงอำลาให้กับผม แม้จะพอคาดเดาบรรยากาศของงานมาก่อนหน้านี้อยู่บ้าง แต่พอถึงวันสุดท้ายจริงๆ ผมเองกลับไม่ได้เตรียมพร้อมกับน้ำตามากมายของพนักงานในคืนนั้น ผมคิดว่าน้ำตาของพวกเขาไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความเสียใจเพราะผมก็ไม่ได้หายไปไหนก็ยังวนเวียนอยู่ในธุรกิจให้พวกเขาได้เห็นหน้าเหมือนเดิม แต่มันคือน้ำตาแห่งความผูกพันของสมาชิกในครอบครัวที่เรามีให้กันมาตลอด 11 ปีเต็ม งานเลี้ยงที่แสนประทับใจร่วมกับความสามัคคี ทุ่มเทกายใจของพนักงานทั้งหมดที่มอบให้ผมมาตลอด มันเป็นของขวัญชิ้นโตที่พวกเขามอบให้
และผมเองก็ตั้งใจที่จะมอบของขวัญชิ้นพิเศษให้กับพนักงาน… ผมเตรียม “กระปุกออมกัปตัน” ไว้เป็นของขวัญให้พนักงานทุกคนของผมในคืนนั้น ที่กล่องใส่กระปุกมีข้อความว่า "จำได้ไหม สมัยเด็กๆ ที่คุณหยอดกระปุกเพื่อเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่หนอมันจะเต็ม พอถึงวันที่กระปุกเต็มแล้วต้องทุบ ทั้งดีใจที่จะได้ของเล่นใหม่ แต่ก็รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก การออม.. ทำให้เราสุขใจ ปลอดภัย และมั่นคง แต่การใช้เงิน สร้างสุขได้เพียงประเดี๋ยวประด๋าว ความเต็ม ไม่วัดด้วยมูลค่าของเหรียญที่หยอดลงไป แต่อยู่ที่ความสม่ำเสมอและความตั้งใจจริง"
ผมอยากบอกพวกเราทุกคนว่า การออมเหมือนเป็นการฝึกจิตใจ ฝนนิสัย ให้มุ่งมั่นตั้งใจจนบรรลุเป้าหมาย ลองเริ่มต้นจากความสำเร็จเล็กๆ ด้วย กระปุกกัปตันใบนี้ ผมเชื่อว่าต่อไปไม่ว่าเรื่องไหนๆ เราก็สามารถทำให้สำเร็จได้ กระปุกอ้วนๆ หลายสีเหล่านี้ดูผ่านๆ มันคงเหมือนกระปุกออมสินทั่วไป หากแต่ความตั้งใจจริงของผมมีมากการออมเงิน ผมทำมันขึ้นมาเพราะต้องการให้กระปุกออมกัปตันเป็นสัญลักษณ์ของการมุ่งมั่นทำอะไรอย่างสม่ำเสมอเพื่อไปให้ถึงฝันของคุณที่ตั้งใจไว้
ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มหยอดเหรียญลงกระปุกให้เป็นความจริงขึ้นมา มีคนถามผมตลอดเวลาว่าทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ทั้งๆ ที่พวกเขาทั้งประหยัด ทั้งขยัน ทั้งอดทนต่อสู้ทำตามแบบอย่างที่คนประสบความสำเร็จทำมาแล้วทุกอย่าง แต่ทำไมธุรกิจของเขาถึงยังล้มลุกคลุกคลานไม่เป็นท่า คำตอบที่ผมมักจะพูดไปก็คือ “เพราะคุณยังทำไม่พอไงล่ะครับ” การจะประสบความสำเร็จได้ อยู่ที่การทำอย่างสม่ำเสมอ ทำมันอยู่ตลอดเวลา ทำอย่างไม่ยอมท้อถอย ทุกคนล้วนต้องเจออุปสรรคไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง แต่บางคนเจอครั้งเดียวก็เลิกแล้ว ในขณะที่บางคนยังกัดฟันสู้ต่อเจอครั้งที่สอง ครั้งที่สามก็ยังไม่ยอมแพ้แต่พอมาถึงครั้งที่ห้าสิบกลับถอดใจไปตรงนั้น กฎของการประสบความสำเร็จในธุรกิจได้ไม่ได้อยู่ที่คุณคิดได้ก่อนใคร คุณเริ่มทำก่อน หรือใครทำมากกว่า แต่ทั้งหมดคือการมุ่งมั่นทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ยอมแพ้ ก็เหมือนกับการหยอดกระปุกไงครับ ไม่ว่าคุณจะหยอดครั้งละหนึ่งร้อยบาท หรือจะหยอดครั้งละบาท ถ้าคุณหยอดมันทุกวันมันก็ต้องเต็มจนได้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ทำธุรกิจก็เหมือนกัน…ถ้าใส่ความพยายามและความอดทนเข้าไปในชีวิตทุกวัน คุณก็มีสิทธิ์ประสบความสำเร็จเข้าซักวัน ไม่มีใครหลุดจากกฎนี้ไปได้เว้นเสียแต่ว่าคุณจะหยุดทำแค่นั้นเองครับ
โดยคุณตัน ภาสกรนที
เป็นข้อคิดในการทำงานที่ดีมากๆเลยครับ “การจะประสบความสำเร็จได้ อยู่ที่การทำอย่างสม่ำเสมอ ทำมันอยู่ตลอดเวลา ทำอย่างไม่ยอมท้อถอย ทุกคนล้วนต้องเจออุปสรรคไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง แต่บางคนเจอครั้งเดียวก็เลิกแล้ว ในขณะที่บางคนยังกัดฟันสู้ต่อเจอครั้งที่สอง ครั้งที่สามก็ยังไม่ยอมแพ้แต่พอมาถึงครั้งที่ห้าสิบกลับถอดใจไปตรงนั้น กฎของการประสบความสำเร็จในธุรกิจได้ไม่ได้อยู่ที่คุณคิดได้ก่อนใคร คุณเริ่มทำก่อน หรือใครทำมากกว่า แต่ทั้งหมดคือการมุ่งมั่นทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ยอมแพ้” ผมว่าถ้าเราทำงานแล้วไม่ยอมแพ้กับปัญหาอุปสรรคซักวันเราจะได้สิ่งที่เราต้องการแน่นอน