สุนทรพจน์ของ แอนนา ควินด์เลน

บทความต่อไปนี้เป็นบทความที่แปลมาจากสุนทรพจน์ของนักเขียนชื่อดังคนหนึ่งของอเมริกา ชื่อว่า แอนนา ควินด์เลน เธอได้มีโอกาสพูดสุนทรพจน์ในปี 2000 เธอเริ่มกล่าวว่า..

เป็นเกียรติอย่างมากสำหรับฉันที่เป็นสมาชิกคนที่สามของครอบครัวที่ได้รับปริญญาจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ตามลุงจิมที่ได้รับปริญญาเอกในสาขาจิตวิทยา และลุงแจ็ค นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง ถ้าทั้งสองเป็นตัวแทนในการกล่าวสุนทรพจน์ในครั้งนี้ พวกเขาอาจจะสามารถบอกคุณได้เกี่ยวกับการแพทย์ หรือ ด้านธุรกิจ ส่วนตัวฉันเอง ฉันไม่ได้มีทักษะพิเศษใดๆเลย ฉันเป็นนักเขียนคนหนึ่ง..

งานของฉันเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ อย่าสับสนระหว่างชีวิตและการทำงาน เพราะอย่างหลังเป็นเพียงส่วนหนึ่งของอันแรก พ่อของฉันเคยสอนไว้เสมอว่า “หากคุณชนะในสนามแข่งหนู คุณก็ยังคงเป็นเพียงแค่หนู” พวกคุณทุกคนจะเดินออกจากห้องประชุมไปในวันนี้พร้อมกับสิ่งหนึ่งที่คนอื่นๆ ไม่มี… มีผู้คนอีกมากมายที่ได้รับปริญญาเช่นเดียวกับคุณ

แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่เหมือนกันก็คือ คุณจะเป็นคนๆ หนึ่งที่ควบคุมชีวิตตัวเอง
ไม่เพียงแค่ชีวิตบนโต๊ะทำงาน หรือ ชีวิตบนรถบัส หรือแม้กระทั่งชีวิตหน้าคอมพิวเตอร์
ไม่ใช่ชีวิตตามความคิด แต่เป็นชีวิตตามหัวใจ
ไม่เพียงแค่เงินในธนาคาร แต่เป็นจิตวิญญาณของคุณ

คนส่วนใหญ่ไม่พูดถึงเรื่องจิตวิญญาณอีกต่อไป มันง่ายกว่าหากเราเขียนเรซูมเม่แทนการบอกถึงจิตวิญญาณ และนี้คือเรซูมเม่ของฉัน..

ฉันมีลูกสามคน ฉันพยายามตลอดเวลา เพื่อไม่ใช่การทำงานของฉันอยู่บนทางเดียวกันกับการเป็นแม่ที่ดี ฉันเลิกคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลโดยการหังมากขึ้น หัวเราะมากขึ้น ฉันเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับสามีของฉัน และพยายามทำตามคำสัญญาที่พูดไว้ในวันแต่งงาน ฉันมีเพื่อนที่ดีรอบๆตัว หากปราศจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ฉันคงไม่มีอะไรมาพูดกับคุณในวันนี้ และในวันนี้สิ่งที่ฉันต้องการจะบอกพวกคุณก็คือ..

ออกไปค้นหา และใช้ชีวิต ไม่ใช่เพียงแค่ความต้องการเงินเดือนที่มากขึ้น หรือบ้านหลังใหญ่ๆ พยายามใช้ชิวิตแบบที่คุณสามารถรู้สึกได้ถึงกลิ่นของเกลือในน้ำทะเลที่กระทบฝั่ง หรือความรู้สึกที่คุณเฝ้าคอยดูลูกของคุณในขณะที่เขาพยายามหยิบขนมโดยใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ ใช้ชีวิตในแบบที่ไม่โดดเดี่ยว ใช้ไปกับคนที่คุณรักและคนที่รักคุณ

และในที่สุดคุณจะได้รู้ว่าการใช้ชิวิตมันพิเศษแค่ไหน เมื่อคุณให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆ รอบตัวมากขึ้น มันง่ายมากที่จะใช้ชีวิตไปวันๆ ปล่อยให้วัน ,ชั่วโมง, และนาทีผ่านไป มันง่ายมากที่จะมีชีวิตอยู่ ง่ายว่าทำให้ชีวิตของคุณมีชีวิตชีวา อย่างไรก็ตามคุณจะไม่ได้รับสิ่งเหล่านั้นเลยหากคุณไม่ยอมเปิดตาและหูของตัวเอง ใช้ชีวิตให้เหมือนกับทุกๆ สิ่งเป็นห้องเรียน ที่คุณสามารถเรียนรู้ได้ในทุกๆ เวลา

ฉันได้พบกับครูที่ดีที่สุดของฉันเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา มันเป็นเดือนธันวาคมและฉันกำลังพยายามเขียนเรื่องเกี่ยวกับ คนไร้บ้านทำอย่างไรจึงมีชีวิตรอดในช่วงหน้าหนาว ฉันกับเขานั่งอยู่บนแท่นไม้ริมน้ำ ขณะที่เขาเล่าให้ฟังว่า

เมื่ออุณภูมิลดลงต่ำกว่าศุนย์เขาต้องไปนอนในโบสถ์ และพยายามหลบหนีจากตำรวจ และพายุไซโคลน เขาบอกฉันว่าเวลาส่วนใหญ่ของเขาใช้ชีวิตเหมือนกับที่เรากำลังนั่งอยู่ตรงนี้ ถึงแม้ว่าอากาศจะหนาวเย็น และเขาต้องสวมหนังสือพิมพ์หลังจากที่เขาอ่านมันจบ ฉันถามเขาว่า ทำไมเขาไม่ไปหาที่พักที่ทางการจัดให้ ทำไมไม่ไปโรงพยาบาลเพื่อดีท็อซ์ตัวเอง เขาเพียงแค่มองออกไปและบอกกับฉันว่า มองวิวข้างหน้าสิ.. มองวิว

และในทุกๆวัน ฉันพยายามที่จะทำตามที่เขาบอก เชื่อฉันอย่างหนึ่ง การมองสิ่งๆรอบๆตัว คุณจะเห็นอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น และนี้คือสิ่งสุดท้ายที่ฉันอยากจะบอกคุณ จากบทเรียนของชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่มีบ้าน ไม่มีที่ไป ไม่มีเงิน..

มองออกไปข้่างหน้า คุณจะไม่มีวันผิดหวัง…

ขอบคุณบทความจากเว็บไซต์ stock2morrow