E-Commerce

E-Commerce

พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic commerce หรือ E-Commerce) สามารถเริ่มต้นได้ง่าย เนื่องจากปัจจุบันนั้นมีหนังสือ หน่วยงาน เว็บไซต์ หรือ Forums ต่างๆ มากมายให้ความรู้ ซึ่งสื่อเหล่านั้นก็มักจะกล่าวถึง ทางเลือก, รูปแบบการทำ, ประโยชน์, ข้อดีข้อเสีย, เทคนิคการทำให้ประสบความสำเร็จ, การทำการตลาด อื่นๆ ใดๆ สิ่งที่ทำให้ E-Commerce นั้นเป็นที่นิยมนั้นมีหลายปัจจัยดังต่อไปนี้

ปัจจัยที่ทำให้ผู้ประกอบการสนใจทำธุรกิจ E-Commerce

  • เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า ช่วยให้ผู้ประกอบการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าออกไปโดยไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน ทำให้ผู้ประกอบการเพิ่มยอดขายและลดต้นทุนการทำร้านค้าได้
  • ไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานเฝ้าตลอด หากคุณมีร้านค้าที่ต้องวางสินค้าจำหน่ายแล้ว นอกจากค่าใช้จ่ายในการดูแลร้านของคุณที่สูง หากร้านใหญ่ก็ต้องมีพนักงานขายที่คอยบริการลูกค้า การนำสินค้าเข้ามาอยู่ในรูปแบบ E-Commerce นั้นจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานเฝ้าร้านได้
  • ร้านเปิดตลอดเวลา ตราบใดที่เว็บไซต์ของคุณยังออนไลน์อยู่นั้น ลูกค้าสามารถเข้าร้ามค้าออนไลน์ของคุณได้เสมอ คุณไม่จำเป็นต้องปิดร้าน ลูกค้าก็สามารถดูข้อมูลสินค้า บริษัท ร้านค้า ของคุณได้
  • สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมาย (Target Groub) ได้ตรงตามต้องการ สื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้นมีหลากหลายรูปแบบ คุณสามารถเลือกสื่อที่จะช่วยทำการตลาดให้ตรงต่อความต้องการของคุณ และตรงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ อาทิ Social Network, E-mail, SEO, Pay Pey Click เป็นต้น

ปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าสนใจซื้อสินค้า

  • เปรียบเทียบราคาและบริการหลังการขายได้ง่าย สามารถเปรียบเทียบราคาสินค้าและบริการจากเว็บไซต์ต่างๆ ได้ง่าย ลูกค้ามักจะหาข้อมูลการซื้อสินค้าก่อนซื้อเสมอ ราคาที่ราคาต่ำกว่าร้านค้าออนไลน์หรือร้านค้าทั่วไป จะเป็นจุดดึงดูดลูกค้าได้ดี บริการหลังการขาย การขอบคุณลูกค้าก็จะช่วยให้ลูกค้ากลับมาซื้อของในเว็บไซต์คุณอีกครั้ง
  • ลดเวลาการเดินทางไปซื้อสินค้าในร้านค้าหรือห้าง การซื้อสินค้าผ่านร้านค้าออนไลน์จะช่วยให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังร้านค้า หรือห้าง เพื่อทำการซื้อสินค้าที่ต้องการ นอกจากนั้นยังช่วยประหยัดค่าเดินทางอีกด้วย
  • สามารถรับสินค้าได้ทันที (ประเภทดิจิตอล เช่น MP3, E-book, Program)

การดำเนินธุรกิจ E-Commerce นั้นได้ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยเสมอ นอกจากปัจจัยดังที่กล่าวมาแล้ว การทำ E-Commerce ยังต้องให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้

  • การเลือกสินค้าที่จะนำมาขาย ควรจะเป็นสินค้าที่ตลาดมีความต้องการอยู่แล้ว เพราะจะทำให้ขายได้ง่าย ส่งผลให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณมีเงินหมุนเวียนที่ดี ไม่ติดขัด และในเว็บไซต์ของคุณควรจะมีสินค้าให้ลูกค้าได้เลือกเพื่อเป็นตัวช่วยตัดสินใจ
  • การตลาด ควรมีการวางแผนการตลาดที่ดี เลือกช่องทางที่เหมาะสมกับคุณในการทำการตลาด จะใช้ SEO, SEM, Banner ก็อยู่ที่กลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการ ควรมีการวิเคราะห์คู่แข่งทางการตลาดก่อน สำรวจราคาสินค้าในตลาดว่ามีราคาเท่าไร คุณจะขายเท่าไร และคุณจะมีกำไรเหลือเท่าไร
  • สร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ ควรมีการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ โดย แจ้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้สะดวก นำรางวัลที่เคยได้รับ คำชมของลูกค้า ใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องในการเขียนคำอธิบายต่างๆ มีชื่อโดเมนที่เป็นของคุณเอง เลือกใช้ Hosting ที่สามารถเข้าเว็บไซต์ได้โดยไม่มีปัญหา มีข้อมูลที่ใหม่อยู่เสมอ และออกแบบเว็บไซต์ให้ดูน่าเชื่อถือ เป็นต้น
  • การขนส่งสินค้า ควรชี้แจ้งเรื่องค่าขนส่งที่จะเกิดขึ้นในการซื้อสินค้าของลูกค้าให้ชัดเจน มีทางเลือกให้กับลูกค้าที่ต้องการสินค้าด่วน หรือต้องการให้สินค้ามีการลงทะเบียน เพื่อให้พนักงานไปรษณีย์ส่งสินค้าเมื่อมีคนอยู่ ทำระบบเช็คสถานะการส่งสินค้าเพื่อให้ลูกค้าทราบว่าตอนนี้สินค้าอยู่ที่ไหน
  • การบริการหลังการขาย สอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในการสั่งซื้อสินค้า รับสินค้า หรือการทำเว็บไซต์ กับลูกค้าเพื่อหาแนวทางปรับปรุงแก้ไข ส่งคำขอบคุณและคำเชิญให้ลูกค้ามาใช้บริการอีกครั้งเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ผ่าน E-mail, SMS, จดหมาย เป็นต้น
  • ช่องทางการชำระเงิน อธิบายถึงวิธีการชำระเงิน ช่องทางการชำระเงิน อย่างละเอียดภายในเว็บไซต์ รวมไปถึงค่าธรรมเนียมที่ลูกค้าอาจจะเสีย (หากมี) และความปลอดภัยในการชำระเงินภายในเว็บไซต์ของคุณ

เว็บไซต์ที่มีเนื้อเกี่ยวข้อง

โจเซฟ แฟรงค์ Josef Frank

Google Logo Josef Frank 2010

Google Doodle Josef Frank

125 ปี ดีไซเนอร์ชื่อดัง โจเซฟ แฟรงค์ Josef Frank นักออกผู้ฟื้นฟูการออกแบบสมัยใหม่และแบบดั้งเดิม โจเซฟ แฟรงค์ เกิดขึ้นที่เมือง Baden bei Wien ประเทศออสเตรีย มีชีวิตระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม ปี 1885 – วันที่ 8 มกราคม 1967 ที่เมือง สตอกโฮล์ม (Stockholm) ประเทศ  สวีเดน (Sweden)

ในปี 1919 – 1925 โจเซฟ แฟรงค์ ได้เป็นอาจารย์สอนในโรงเรียน Applied Arts กรุงเวียนนาและศึกษาที่ Polytechnic Institute ใน Vienna University of Technology ถึงปี 1927

โจเซฟ แฟรงค์ ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเวียนนาถึงปี 1932 โจเซฟ แฟรงค์ ก็แต่งงานและอพยพเข้าไปยังประเทศสวีเดนในปี 1934 ผลงานของ Josef Frank นั้นเป็นเสมือนกับสพานเชื่อมระหว่างการออกแบบสมัยใหม่และแบบดั้งเดิมได้อย่างลงตัว ทำให้อุตสาหกรรมสิ่งทอของชาวสแกนดิเนเวีย (สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก และฟินแลนด์) เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

ในปี 1939 Josef Frank รับงานเป็นดีไซเนอร์ ให้กับบริษัท Svenskt Tenn ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงทางด้านการออกแบบเฟอร์นิเจอร์และสิ่งทอ ซึ่งมีปรัชญาว่า “A home must not primarily be an effective machine; it must offer comfort, rest and a nice atmosphere where the eye can rest and the mind be refreshed. No puritanical principles in a good interior

Josef Frank ได้รับเลือกเป็นคนออกแบบ Pavilion ในงาน  New York World Fair มันทำให้ Josef Frank เป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นไปอีก ในปี 1965 ก่อนที่ Josef Frank จะเสียชีวิต เขาได้รับรางวัล “Grand Austrian State Prize” สาขาสถาปัตยกรรม เป็นคนที่ 6 ที่ได้รับรางวัลในสาขานี้ และล่าสุดผู้ที่ได้รับรางวัลคือ Günther Domenig ได้รับในปี 2004

Josef Frank Wall Lamp V2143 Josef Frank Easy Chair 311

Josef Frank Footstool 647 Josef Frank Tevagn Trolley

อ้างอิง

ข้อดีข้อเสียของ SEO

2.41 Search Engine

SEO คือปลายทางของ Marketing แล้วทำไม SEO จึงเป็นปลายทางของ Marketing? นั้นก็เพราะว่าก่อนที่คุณจะตัดสินใจลงทุนทำ SEO นั้นคุณต้องวิเคราะห์มาก่อนแล้วว่า การทำ SEO จะเป็นช่องทางที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้ การทำ SEO นั้นไม่ได้มีแต่ข้อดีเพียงอย่างเดียวแน่นอน ก่อนการตัดสินใจเลือกให้ SEO เป็นช่องทางให้การทำการตลาด ควรศึกษาข้อดีข้อเสีย รวมไปถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจและเว็บไซต์ของคุณก่อนดีกว่า

ข้อดีของ SEO

  • ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ยี่ห้อ / ตราสินค้า ของคุณปรากฏต่อผู้ใช้ที่ค้นหาเจอ
  • ทำให้เกิดการแข่งขันสูง ทำให้ธุรกิจต้องมีการปรับตัวตาม ปรับแผน ปรับปรุงเว็บไซต์ เพื่อสู้กับคู่แข่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน
  • สามารถวางกลุ่มเป้าหมาย (Target Group) ได้ตรงตามที่ต้องการ
  • ช่วยขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น

ข้อเสียของ SEO

  • ความไม่แน่นอนของอันดับ ด้วย Algorithm ที่มีการปรับปรุงตลอด จึงทำให้อันดับของเว็บไซต์นั้นมีการขยับอยู่เนื่องๆ ขึ้นบ้างลงบ้าง เป็นความไม่แน่นอนที่อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจในเว็บไซต์ได้
  • ใช้เวลาในการทำอันดับนาน การปรับอันดับไม่สามารถทำได้แบบทันที ต้องใช้เวลานานมากกว่า 7-30 วันจึงจะมีการปรับปรุงอันดับเกิดขึ้น (ตามความหนาแน่นของคู่แข่งด้วย)
  • ในเว็บไซต์หนึ่งหน้านั้น จำกัด Keywords ที่เลือกทำ SEO ด้วย เนื่องจากการทำ SEO ต้องมีการปรับเกี่ยวกับเนื้อหาภายในเว็บไซต์ตาม Keywords ด้วย การเลือก Keywords ที่จะทำ SEO จึงต้องเลือก Keywords ที่คิดว่าน่าจะคุ้มค่าต่อคุณมากที่สุด

Case Study Top 1 Keyword “หมอพญายม”

หมอพญายม

Keyword “หมอพญายม” นี้ผมได้เกิดไอเดียอยากติดตาม Hot trend ขึ้นหลังจากที่ดูรายการของคุณวูดดี้เกิดมาคุย ในสัปดาห์ที่ ดงแฮ วง Super Junior มา ซึ่งในช่วงท้ายรายการได้มีการแนะนำว่าสัปดาห์ต่อไปใครจะมา ในรายการก็ได้แนะนำว่าสัปดาห์ต่อไปเตรียมพบกับหมอพญายม ในรายการได้เกริ่นไว้ว่า

“วิเชียร อยู่เกตุ เป็นทารกที่เติบโตนอกมดลูก จนชาวบ้านต่างลือกันว่าเป็น “ลูกผีมาเกิด” พ่อแม่จึงทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้เกิดมาลืมตาดูโลก แต่นั่นไม่สำเร็จ! กระทั่งได้ไปเป็นนักฆ่าที่ฆ่าคนมาแล้วมากมาย จนผันตัวมาทำธุรกิจหลายอย่าง เช่น อาบ อบ นวด, คาเฟ่, ทำบ้านจัดสรร บ่อตกปลา ฯลฯ แต่ชีวิตก็สุขสบายได้ไม่นานก็เริ่มมีหนี้สิ้นเกือบ 500 ล้านบาท และมีเรื่องร้ายต่างๆ นานาๆ เกิดขึ้นกับตัวเอง”

ผมฟังแค่นี้รู้สึกสนใจหมอพญายมคนนี้ซะแล้ว เลยลองค้นใน Google สักหน่อย อยากรู้จักเพิ่มกว่านี้แต่ปรากฏว่ามีข้อมูลของหมอพญายมอยู่น้อยมาก และข้อมูลดังกล่าวก็อยู่กันอย่างกระจัดกระจาย เอาละเซ่.. ถ้าอาทิตย์หน้าหมอพญายมออกแล้วคนค้นแล้วไม่เจอข้อมูลทำยังไงละ.. ใช่แล้ว! ผมต้องหาข้อมูลมาให้ทุกๆ ท่านได้อ่านกัน

ผมเลยเริ่มต้นหาข้อมูลตามเว็บต่างๆ แล้วนำมารวมๆ กัน นั่งทำประมาณ 1 ชั่วโมงก็เสร็จ ในบทความของผมนั้นประกอบไปด้วยโครงสร้าง

  1. รูป 1 รูป ที่ไม่ซ้ำใคร ง่ายๆ ก็ไปหารูปที่มีอยู่แล้วนำมาตัดๆ ต่อๆ ก็เสร็จ
  2. บทความไม่ซ้ำใคร ผมใช้วิธีอ่านและนำมาเขียนใหม่ แน่นอนว่าเนื้อเรื่องและคำบาง คำอาจจะเหมือนกัน แต่รูปแบบโครงสร้างคำไม่เหมือนกันแน่นอน เพราะได้ผ่านความคิดเราแล้ว.. สรุปแล้วก็คือการ Rewrite บทความนั้นเองครับ
  3. บทความต้องมีความยาวที่พอดีไม่น้อยจนเกินไป ของผมมีประมาณ 3 วรรค
  4. บทความมีตัวหนา ตัวเอียง อื่นๆ ตามความเหมาะสม
  5. Title คือ Keyword นั้นก็คือ “หมอพญายม” คำเดียวไม่มีเสริม
  6. มีลิงค์เข้าหาบทความในหน้าของมันเอง 1 Link ตรงนี้ผมให้หัวข้อของบทความทำลิงค์เข้าหาบทความเองครับ (Link Loop)
  7. มีลิงค์ออกไปยังบทความที่เกี่ยวข้อง ผมทำลิงค์ออกไปยังบทความที่ผมได้นำมาอ้างอิง

นั้นก็คือการปรับ Onpage (ปัจจัยภายใน) ในส่วนของ Offpage (ปัจจัยภายนอก) ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้ Submit อะไรที่ไหนเลย ใช้เวลาในการ Index กี่นาทีไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่มาเช็คดูตอนตื่นแล้ว มันเขียนไว้ 17 ชั่วโมงมั่งครับ ตอนนั้นอยู่อันดับ 1 จำได้ว่าวันแรกมีคนค้นประมาณเกือบๆ พัน หลังจากนั้นก็ไม่ถึงร้อยครับ

หลังจากนั้นประมาณ 2 – 3 วันก็เริ่มมีเว็บไซต์หลายเว็บให้ความสนใจ Keywords นี้และทำการ Submit ตามเว็บ Social Bookmark ต่างๆ เพื่อทำ SEO ทำให้เว็บ Social Bookmark ที่เขาไป Submit ต่างทะยอยขึ้นหน้า 1 กันหมด และเว็บผมก็ลงมาปรับฐานใหม่อยู่ประมาณ 2-3 วัน ช่วงนั้นเว็บผมอยู่หน้า 2 หลังจากที่ปรับฐานเสร็จผมก็ผมกลับไปอยู่อันดับ 2 และในที่สุดก็ขึ้นมาอยู่อันดับ 1 ได้

เป็นไงบ้างละครับสำหรับ Case study “หมอพญายม” แน่นอนครับว่าหากต้องการรักษาอันดับให้ได้นานกว่านี้ จะต้องเริ่มทำการหา BackLinks ให้ แต่ผมคงไม่ถึงขนาดนั้น ผมเพียงต้องการ Case study เฉยๆ ไม่มีอะไรมากครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ วันหลังมีอะไรดีๆ จะนำมาบอกเล่ากันอีกนะครับ 😉

หมายเหตุ บทความนี้เขียนไว้นานมาก แต่ลืมเอามาโพส

แนะนำหนังสือ “ทำ Affiliate กับ Amazon” กันเถอะ

ขอแนะนำหนังสือที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นหารายได้กับ Amazon ด้วยระบบ Affiliate Marketing ของ Amazon ในตลาดตอนนี้มีหนังสือที่เกี่ยวกับ Amazon อยู่ 3 เล่มด้วยกัน มาเริ่มที่เริ่มแรกจากคุณตราวุทธิ์กันก่อนดีกว่าครับ

Amazon Make Me Rich สร้างความรวย...ด้วย Amazonชื่อหนังสือ Amazon Make Me Rich สร้างความรวย…ด้วย Amazon
ผู้เขียน คุณตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์
ราคา 299 บาท

เรียน รู้เทคนิคการสร้างรายได้จาก Amazon เว็บไซต์ที่สามารถเริ่มต้นทำโฆษณา และขายสินค้าได้ง่ายที่สุดในปัจจุบัน เพียงแค่คุณอ่านหนังสือเล่มนี้ คุณก็จะรู้ถึงเทคนิคในการเลือกหาสินค้าดีๆ ใน Amazon มาทำโฆษณา เทคนิคการเลือกใช้ Keywords ในการทำโฆษณาเพื่อให้ขายได้ง่ายที่สุด วิธีการเขียนข้อความโฆษณาให้ดี รวมทั้งวิธีการโฆษณาสินค้ากับ Search Engine ยักษ์ใหญ่อย่าง Google และ Yahoo ไม่แน่ว่า รายได้วันละ $1000 อาจกลายเป็นของคุณ

สารบัญ

บทที่ 1 : แนะนำภาพรวมการทำธุรกิจ
บทที่ 2 : ตัวอย่างการทำธุรกิจ AmazonPPC
บทที่ 3 : เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนทำธุรกิจ
บทที่ 4 : การค้าหาสินค้าดีๆ มาทำโฆษณา
บทที่ 5 : Creating Amazon Affiliate Link
บทที่ 6 : ค้นหา Keywords เพื่อใช้ทำโฆษณา
บทที่ 7 : เขียนโฆษณาให้โดนใจ
บทที่ 8 : การลงโฆษณากับ Google AdWords
บทที่ 9 : การลงโฆษณากับ Yahoo! Search Marketing
บทที่ 10 : การวัดผลโฆษณา
…ฯลฯ…

Amazing amazon.com มหัศจรรย์เงินล้านผ่านเน็ต

ชื่อหนังสื่อ Amazing amazon.com มหัศจรรย์เงินล้านผ่านเน็ต
ผู้เขียน คุณพิลาศลักษณ์ สุวรียนนท์ (ใช้ชื่อ User ในเว็บ thaisem.com ว่า MoneyAvenue)
ราคา 169 บาท

มหัศจรรย์ เทคนิคการหารายได้ตามสไตล์ Affiliate Marketing แค่ลงทุนเล็กน้อย ไม่ต้องมีสินค้า, ไม่ต้องมีหน้าร้าน, ไม่ต้องจัดสินค้า และไม่ต้องมีเว็บไซต์เพราะทุกอย่าง Amazon จัดให้ !

มหัศจรรย์ เมื่อเป็น “ผู้ร่วมขายสินค้า” หรือ Associates ให้ Amazon.com เว็บไซต์ขายสินค้าชื่อดังระดับโลก ทำงานออนไลน์สมบูรณ์แบบ !

มหัศจรรย์ สารพันวิธีการสร้างลิงก์ ดึงลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมและสั่งซื้อภายใน 24 ชั่วโมง ค่าคอมมิสชันก็จะเป็นของคุณ !

มหัศจรรย์ กลเม็ดการขายแบบรวมมิตร aStore + SEO และ PPC ไปจนถึงการหา Keyword เพื่อการเป็น “ผู้ร่วมขาย” ของ Amazon อย่างได้ผล !

มหัศจรรย์
ประสบการณ์ตรงของผู้เขียน ไม่มีปิดบัง ช่วยสร้างอาชีพเสริมที่อาจนำไปสู่อาชีพหลัก หากคุณทำอย่างต่อเนื่องและถูกวิธี มีสิทธิ์สัมผัสเงินล้าน !

สารบัญ

บทที่ 1 ทำความรู้จักกับ www.Amazon.com
บทที่ 2 สินค้าและโปรโมชันต่าง ๆ ของ Amazon
บทที่ 3 การสมัครเป็นผู้ร่วมขายสินค้าของ Amazon
บทที่ 4 รู้จัก Tracking System และ Tracking ID
บทที่ 5 aStore ร้านค้าสำเร็จรูปของ Amazon
บทที่ 6 การใช้เครื่องมือค้นหาของ Amazon และการสร้างลิงก์แบบตัวอักษร
บทที่ 7 ลิงก์แบบ Classic
บทที่ 8 ลิงก์ และ Widget อื่น ๆ ของ Amazon
บทที่ 9 ช่องทางการโฆษณา
บทที่ 10 ลิงก์หรือเว็บเพจที่มีประโยชน์ต่อการโปรโมตสินค้า
บทที่ 11 ค่าตอบแทนในการขายหรือค่าคอมมิสชัน
บทที่ 12 การดูรายงานผลแบบต่างๆ ใน Amazon
บทที่ 13 อีเมลที่ได้รับจาก Amazon มีอะไรบ้าง
บทที่ 14 เรื่องที่ควรทราบของ Amazon และผลงานของผู้เขียน
ภาคผนวก (Appendix)
คำถามที่ถามกันบ่อย (FAQ)

สอนให้รวยด้วย amazon

ชื่อหนังสือ สอนให้รวยด้วย Amazon
ผู้แต่ง สิทธิศักดิ์ บุญมาก
ราคา 195 บาท

หนังสือเล่มที่เพื่อน ๆ กำลังถืออยู่นี้เป็นหนังสือแนะนำการสร้างรายได้กับ Amazon ที่เขียนจากประสบการณ์สร้างรายได้ของผมโดยตรง และสามารถสร้างรายได้ให้กับผมตลอด 1 ปีที่ผ่านมาโดยไม่ได้ทำการโฆษณาผ่านออนไลน์อย่าง Pay Per Click (PPC) เลยแม้แต่บาทเดียว สิ่งที่ผมเองอยากจะบอกกับเพื่อน ๆ ก็คือ การสร้างรายได้ผ่านอินเตอร์เน็ตนั้น สามารถทำเงินได้จริง และ ทุกคนสามารถสร้างรายได้ได้ เพียงแค่ต้องรู้หลักการ และ เทคนิคอย่างถูกต้องเท่านั้น โดยเพื่อน ๆ สามารถเรียนรู้ได้จากหนังสือเล่มนี้เป็นขั้น ๆ และศึกษาเทคนิคต่าง ๆ อย่างถูกต้องจากหนังสือเล่มนี้ได้เลยครับ

สารบัญ

บทนำ
Chapter 1 ทำความคุ้นเคยกับหน้าตาเว็บไซต์ Amazon
Chapter 2 สร้างบล็อกฟรีเพื่อเงินกับ Amazon
Chapter 3 สมัครและการจัดการบัญชีเบื้องต้น
Chapter 4 ค้นหาและวิเคราะห์สินค้ามาขายจาก Amazon
Chapter 5 สร้างร้านค้าส่วนตัวกับ Amazon
Chapter 6 การทำงานของลิงค์ และแบนเนอร์เครื่องมือหากิน
Chapter 7 กลยุทธ์เรียกลูกค้าเข้าบล็อกและร้าน aStore
Chapter 8 บอกเล่าประสบการณ์ การทำรายได้กับ Amazon
Chapter 9 กฎระเบียบของ Amazon ที่ควรรู้
Appendix I การเช่าโฮสติ้ง และการจดชื่อโดเมน
Appendix II ความสำคัญของ Cookie
Appendix III คำถามที่พบบ่อย ๆ
Appendix IV ลิงค์มีประโยชน์
Appendix V คำศัพท์พบบ่อย

เท่าที่รวบรวมมามี 3 เล่มนะครับ สนใจเล่มไหนก็ลองหาซื้อกันได้ครับหรือสั่งผ่านเว็บ se-ed ตามลิงค์ข้างล่างก็ได้ครับ

หมายเหตุ หนังสือเล่มแรกเป็น Amazon ในเนื้อหาจะเป็นการแนะนำวิธีการทำเงินจาก Amzon แบบ PPC  ด้วยการลงโฆษณากับ AdWords หรือ Yahoo Search Marketing (Y!SM) ส่วนสองเล่มหลังที่แนะนำเน้นการทำ Amazon แบบ SEO ครับ

อ้างอิง

มาดูเงินเดือนของพนังงานใน Amazon.com, Inc.

Amazon

ขอนำตัวเลขเงินเดือนของสุดยอดตำนานบริษัท E-Commerce ที่มีต้นกำเนิดมาจากโรงรถอีกหนึ่งบริษัท ซึ่งทุกท่านน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี นั้นก็คือบริษัท Amazon.com นั้นเองครับ เริ่มต้นในปี 1995 จากเว็บไซต์ที่ขายหนังสือเพียงอย่างเดียว ในปี 1996 ก็ได้นำระบบ Affiliate Marketing มาใช้และเรียกมันว่า Amazon Associates ซึ่งนับว่ามีส่วนทำให้ Amazon ประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ ขอนำตัวเลขเงินเดือนของ 5 ท่านที่มีส่วนสำคัญกับ Amazon มาให้ดูกันครับ เริ่มต้นกันที่ Jeffrey P. Bezos คือ ผู้ก่อตั้ง Amazon ก่อนเลย..

Name Year Salary Bonus

Stock
Awards

All Other Compensation Total ($)
Jeffrey P. Bezos 2009 81,840 1,700,000 1,781,840
2008 81,840 1,200,000 1,281,840
2007 81,840 1,200,000 1,281,840
Thomas J. Szkutak 2009 160,000 7,491,000 3,200 163,200
2008 157,500 3,150 7,651,650
2007 150,000 3,000 153,000
Sebastian J. Gunningham 2009 160,000 100,000 179,887 439,887
2008 157,500 725,000 57,035 939,535
2007 123,863 1,125,000 14,130,000 183,878 15,562,741
Diego Piacentini 2009 175,000 55,905 230,905
Shelley L. Reynolds 2009 160,000 450,232 3,200 613,432
  1. Jeffrey P. Bezos (Chief Executive Officer)
  2. Sebastian J. Gunningham (SVP, Seller Services)
  3. Sebastian J. Gunningham (SVP, Seller Services)
  4. Diego Piacentini (SVP, International Retail)
  5. Shelley L. Reynolds (VP, Principal Accounting Officer & Worldwide Controller)

อ้างอิง

Iron Baby ปะทะ Iron Man

เมื่อสาวน้อยลูก Patrick Bolvin มารับบท Iron Baby จึงเกิดการปะทะกันระหว่าง Iron Baby  vs Iron Man

Iron Baby

คลิป Iron Baby นี้เกิดจากไอเดียคุณพ่อลูกสาว คุณแพทริค บอยวิน (Patrick Bolvin) ต้องการสร้างหนังล้อเลียน Iron Man โดยมอบบทดารานำให้น้องมากาเร็ต (Margaret) ลูกสาวของเขา เริ่มต้นโดยน้องมากาเร็ต นั่งเล่นของเล่นจากนั้นก็แปลงร่างเพื่อออกไปต่อสู้กับกระต่ายที่มีปืน น้องมากาเร็ตยิงลำแสงออกจากตรงกลางฝ่ามือและจัดการเหล่ากระต่ายได้สำเร็จ!

สำหรับ Iron Baby นี้ใช้เวลาทำนานถึง 2 เดือน จับมือกับ 3D อย่าง Jocelyn Simard ที่ใช้เทคนิคพิเศษที่แทบไม่มีในหนัง คุณพ่อแพทริค บอยวิน บอกว่า “การที่เขาทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้บริษัทสนใจเขา ซึ่งมันก็สำเร็จ แน่นอนรอชมคลิปลูกสาวของฉันด้วย”

Patrick Bolvin ไม่ได้ทำแค่ Iron Baby นะครับคลิปหลายตัวของเขาก็ดังเหมือนกันครับ เช่น NINJA’S UNBOXING

Iron Baby 7

ชมคลิปผลงานของเขาเพิ่มเติมได้ที่