วิธีการสมัคร Google Adsense แบบ Step by Step

Google Adsense เป็นระบบที่สามารถทำเงินได้มหาศาลให้กับคนไทยหลายๆ คน วันนี้ผมจึงมาแนะนำวิธีการสมัคร Google Adsense ซึ่งก่อนที่จะทำการสมัครเราต้องทำความเข้าใจกฏอยู่ 4 ข้อแบบง่ายๆ คือ

เงื่อนไขวิธีการสมัคร Google Adsense

1. ผู้สมัครจะต้องมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง
2. เว็บไซต์ที่มาสมัครจะต้องเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ
3. เว็บไซต์ที่สมัครจะต้องเป็นเว็บไซต์ที่ไม่ผิดกฏหมาย เช่น เว็บไซต์ขายหนังโป๊
4. เว็บไซต์บริการให้โหลดเพลง ฯลฯ

เมื่อทำความเข้าใจเสร็จแล้วก็มาสมัครกันเลย

วิธีการสมัคร Google Adsense

1. เข้าเว็บไซต์เพื่อสมัครทที่ http://www.google.com/adsense
2. คลิก Sign up
3. กรอกข้อมูลในส่วนของ Website Information และ Contact Information
4. รอ E-mail ตอบรับจาก Google Adsense

ดูรายละเอียดการกรอกข้อมูล Google Adsense

ดูรายละเอียดการกรอกข้อมูลคลิกที่รูป

สำหรับวิธีการสมัครนั้นคงไม่ยากเกินไปนะครับ

npdsplay Cannot create Directshow Player อาการแบบนี้แก้ยังไงดี

สำหรับ Cannot create Directshow Player นั้นเกิดจากการที่เรายังไม่ได้ได้ลง Plugin ที่ชื่อว่า Windows Media Player ที่ใช้บน Browser แค่ลง Plugin ตัวนี้ก็สามารถใช้งานได้แล้วละครับ

http://port25.technet.com/pages/windows-media-player-firefox-plugin-download.aspx

ลองดูนะครับ

Error Dreamweaver 8 “The following JavaScript error(s) occured”

 

ใครเปิดมาแล้วเป็นแบบนี้บ้างครับ (ขออ้างอิงข้อความของคุณ toto จากเว็บ twebmaster นะครับ)

เขียนเว็บด้วย DW8 มาได้ 2 อาทิตย์แล้วครับ แต่วันนี้(11 พ.ย.49)จู่ๆพอเปิด DW8 แล้วเกิดไคอนดังนี้ครับ (ลงรูปไมได้)
“The following JavaScript 
error(s) occured”
At line 56 of file “C:Program FilesMacroMedia
Dreamweaver 8ConfigurationSharedCommonScriptdwscriptsExtData.js”
ReferrenceError: dwscripts is not defined  ฮืม

พอเปิดเว็บที่เขียนไว้แล้วก็ขึ้นอีกว่า
“The following translators were not loaded due to errors:
ASP.htm: has configuration information that is invalid.
ColdFusion.htm: has configuration information that is invalid.
XSLT.htm: has configuration information that is invalid.”  อายจัง

หลังจากนั้นลองเอาเมาส์ไปพาดข้อความในหน้าที่กำลังทำงานเมื่อคลิกขวาเพื่อทำการก๊อปปี้จะมีไอคอนว่า
“While executing DWContext_Text_Cut command in minus.xml, the following Javascript 
error(s) occured:
TypeError: MM.event has no properties”   ลังเล

ยังไม่หมดนะครับ เมื่อทำการปรับปรุงเว็บไปเรื่อยๆ แล้วกด save ก็จะเจออีก 1 ไอคอน คือ
“While executing onload in tempURL_afterSave.htm, a Javascript 
error occured.”  โกรธ

มากมายขนาดนี้ลองลบใหม่แล้วลงใหม่และเปิดใหม่ก็ยังเป็นอยู่ดี วานผู้รู้ช่วยบอกวิธีแก้ไขด้วยครับ….!!!  ร้องไห้

 

พอดีผมเคยโพสวิธีแก้ไปนานแล้วมากๆ ในเว็บนั้นละครับแต่ตอนนี้ Link มันเสียไปแล้ว เอาเป็นว่าผมขอ Copy ตัวเองมาไว้ใน Blog ของผมเองนะครับ

วิธีการแก้ไขคือ

1. update version ของ Dreamweaver ล่าสุดของมันคือ 8.0.2 นะคับ ได้ในนี้เลยคับ http://download.macromedia.com/pub/dreamweaver/updates/dw_8/8_0_2/win/dw8_802_update_en.exe

2.  ทำการลบไฟล์ FileCache.dat ของ Dreamweaver ชื่อไฟล์คือ WinFileCache-7A9586CB.dat ตาม OS และเวอร์ชั่นที่ใช้เลยนะคับ

ต้องเปิดการซ่อนไฟล์ก่อนนะครับ

Dreamweaver CS3 on Windows Vista:

C:Users[username]AppDataRoamingAdobeDreamweaver 9Configuration

Dreamweaver CS3 on Windows XP:

C:Documents and Settings[username]Application DataAdobeDreamweaver 9Configuration

Dreamweaver 8 on Windows XP:

C:Documents and Settings[username]Application DataMacromediaDreamweaver 8Configuration

 

Dreamweaver 8 on Windows Vista:

C:Users[username]AppDataRoamingMacromediaDreamweaver 8Configuration

 

ลองแก้ตามนี้ดูละกันนะครับ

วิธีเช็ค Index ใน Domain และ SubDomain ของโดเมนนั้นๆ

วันนี้ผมมจะมาแนะนเรื่องวิธีเช็ค Index ใน Domain ของเราครับ เช่นโดเมนของผมคือ www.sutenm.com และมี SubDomain คือ http://forums.sutenm.com/ และ http://joomla.sutenm.com/ ถ้าผมอยากจะเช็คว่า Index ในSubDomain เว็บ forums ของผมมีเท่าไรผมก็จะพิมพ์คำสั่งนี้นะครับ

Site:forums.sutenm.com

 มันจะได้

Results 110 of about 130 from forums.sutenm.com. (0.20 seconds)  แบบนี้ครับ(ผมไม่เอา Index ทั้งหมดมาโชว์นะครับ เพราะมันจะเยอะเกินไป ขอเอาแค่ Results นะครับ)

เช่นกันถ้าผมจะเช็คใน SubDomain joomla ก็จะพิมพ์แบบคำสั่งด้านบนครับ หากผมจะเช็คในโดเมน www.sutenm.com ก็จะพิมพ์

Site:www.sutenm.com

นะครับ  ทีนี้หากผมต้องการเช็คว่า Index ของ 1 โดเมนหลัก(www.sutenm.com) และ 2 SubDomain (http://forums.sutenm.com/ และ http://joomla.sutenm.com/) ของผมมีเท่าไร  ผมจะพิมพ์คำสั่ง

Site:sutenm.com

คือผมจะไม่ใส่ www ลงไปนั้นเองครับ มันจะขึ้นแบบนี้ครับ

 Results 110 of about 254 from sutenm.com. (0.06 seconds) 

เอาเป็นว่าคงเข้าใจวิธีการใช้คำสั่ง Site: แล้วนะครับ ลองไปเช็คกันดูนะครับ

 

อ้างอิงวันที่ 04 Sep 08

วิธีการทำ SEO ขั้นพื้นฐาน

1.ทำการปรับแต่งเนื้อหาของเว็บไซต์ให้มีความน่าสนใจ และเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆ ทุกวัน
2.ทำการปรับปรุง MATA Tag ของเว็บไซต์ให้ตรงกับเนื้อหาในแต่ละหน้า (Keywords , Descriptions , Title Tags)
3.ทำการเพิ่มปริมาณของ Backlink ที่มีคุณภาพให้กับเว็บไซต์ให้ได้เยอะที่สุด วิธีการที่ง่ายที่สุดคือทำการ Submit Articlesกับเว็บไซต์submityourarticle.com แต่เราต้องเขียนเนื้อหาให้ถูกต้องตามหลักการของภาษาอังกฤษก่อนนะครัให้ง่ายๆ ก็จ้างเขาเขียนเอาก็ได้ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 $ ต่อ Article
4.ให้ Keyword ที่ผู้ใช้ต้องการค้นหาอยู่ใน URL ของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น ผมต้องการทำ SEO ให้กับ Keyword “Error-หน้า-404″ก็จะเพิ่มคำว่า”Error-หน้า-404″ไว้ในURLของเว็บไซต์ http://www.sutenm.com/2008/09/01/วิธีจัดการ-Error-หน้า-404/ ไว้ในเว็บไซต์ด้วย
5. รอตรวจสอบผลการทำงานเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน โดยใช้วิธีการเช็ค Backlink ,
PR จาก Search Engine โดยสามารถเข้าไปเช็ครายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ iwebtool.com

SEO สำคัญอย่างไร

SEO สำคัญกับธุรกิจหลายๆ ธุรกิจ เพราะการทำ SEO จะส่งผลดีต่อเว็บไซต์ทำให้เพิ่มจำนวนคนที่
เข้าเว็บไซต์ ยกตัวอย่างของตลาดที่นิยมทำ SEO เช่น ท่องเทียว สินค้าอิเล็กทรอนิค หนังสือ
เครื่องแต่งกาย Mp3 หนัง ฯลฯ เพื่อให้เห็นความชัดเจนของการทำ SEO จึงลำดับเป็นหัวข้อได้
ดังนี้
1. ผู้ใช้ Internet จำนวนมากใช้ Search Engine ในการค้นหาเว็บไซต์
2. การทำ SEO สามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องมีต้นทุนที่สูงมาก
3. เว็บไซต์ที่ทำ SEO สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายๆ ด้าน ( ในการทำ Internet Marketing )

วิธีจัดการ Error หน้า 404

404 – Not Found or Object Not Found

อะ คงมีหลายท่านที่ทำเว็บแล้วเกิดหน้า Error 404 แน่นอนใช่ไหมครับ Error ดังกล่าวเกิดจากมันไม่พบไฟล์ตาม URL ที่ท่านเรียก  คนที่เข้ามาเว็บเราแล้วเจอหน้า 404 นี้คงเซ็งมากๆเลยใช่ไหมครับ  เราเองถ้าเจอหน้า  404  ยังเซ็งเลย  หลายๆท่านก็มีวิธีจัดการต่างกันไป ลองมาดูภาพนี้ดีกว่า

ที่มา megamisc.blogspot.com/2008/04/error-404.html

 

อะห้า เป็นไอเดียนะครับไปต่อยอดเองละครับ แต่หากเราไม่อยากยุ่งยากแล้ววันนี้ผมมีอีกวิธีหนึ่งที่แสนจะง่าย ไม่ต้องทำอะไรสักอย่างเลยละครับ เป็น Tool ของ Google Webmaster Tools โดยประโยชน์ของมันคือ

  • It adds a search box for your site with appropriate search suggestions
    ช่วยเพิ่มกล่องค้นหาในเว็บไซต์    
     
  •   It tries to provide alternatives to incorrect URLs
    จัดการกับ URL ที่ไม่ถูกต้อง
       
     

นี้คือภาพตัวอย่างครับ

ง่ายๆครับนำ Code นี้ไปติดไว้ในเว็บของคุณ

นี้ภาษาไทย

<style type=”text/css”> #goog-wm { } #goog-wm h3.closest-match { } #goog-wm h3.closest-match a { } #goog-wm h3.other-things { } #goog-wm ul li { } #goog-wm li.search-goog { display: block; } </style> <script type=”text/javascript”> var GOOG_FIXURL_LANG = ‘th’; var GOOG_FIXURL_SITE = ‘http://www.sutenm.com/’; </script> <script type=”text/javascript” src=”http://linkhelp.clients.google.com/tbproxy/lh/wm/fixurl.js”></script><style type=”text/css”> #goog-wm { } #goog-wm h3.closest-match { } #goog-wm h3.closest-match a { } #goog-wm h3.other-things { } #goog-wm ul li { } #goog-wm li.search-goog { display: block; } </style> <script type=”text/javascript”> var GOOG_FIXURL_LANG = ‘th’; var GOOG_FIXURL_SITE = ‘http://www.sutenm.com/’; </script> <script type=”text/javascript” src=”http://linkhelp.clients.google.com/tbproxy/lh/wm/fixurl.js”></script>

นี้ภาษา Eng

<style type=”text/css”> #goog-wm { } #goog-wm h3.closest-match { } #goog-wm h3.closest-match a { } #goog-wm h3.other-things { } #goog-wm ul li { } #goog-wm li.search-goog { display: block; } </style> <script type=”text/javascript”> var GOOG_FIXURL_LANG = ‘en’; var GOOG_FIXURL_SITE = ‘http://www.sutenm.com/’; </script> <script type=”text/javascript” src=”http://linkhelp.clients.google.com/tbproxy/lh/wm/fixurl.js”></script>

หรือถ้าไม่ชอบแบบข้างบนอยากแก้ก็ตามนี้เลยครับ

Changing the appearance of the custom 404 widget
If you’re familiar with CSS, you can use it to change the appearance of the 404 widget on your custom 404 page. To change the appearance of your widget, add the following code to your custom 404 page:
<style type=”text/css”> /* Widget content container */ #goog-wm { } /* Heading for “Closest match” #goog-wm h3.closest-match { } /* “Closest match” link #goog-wm h3.closest-match a { } /* Heading for “Other things” */ #goog-wm h3.other-things { } /* “Other things” list item */ #goog-wm ul li { } /* Site search box */ #goog-wm li.search-goog { display: block; } </style>
Then edit the CSS to change the element you want. For example, the code below specifies:
  • The width, padding, border, and background color for the 404 widget container (#goog-wm).
  • The color of the Closest match text, its border and padding, font size, and margin (#goog-wm h3.closest-match).
  • The color of the Other things heading (#goog-wm h3.other-things).
  • The presence of the Google site search box. In the sample below, the value display:none turns the Google site search box off (#goog-wm li.search-goog). The site search box is visible by default; add this value only if you don’t want the site search box to appear (the search box is visible by default).

#goog-wm { width: 800px; padding: 1em; border: 3px solid #aebd63; background-color: white; } #goog-wm h3.closest-match { color: #8f2831; border-bottom: 3px dashed #aebd63; padding-bottom: 0.5em;; font-size: 170%; margin: 0; } #goog-wm h3.closest-match a { } #goog-wm h3.other-things { color: #8f2831; } #goog-wm ul li { } #goog-wm li.search-goog { display: none; }