ทองคำลึก 3 ฟุต

ต่อไปนี้คือเรื่องราวของ “ทองคำลึก 3 ฟุต” ที่แสนลือลั่น

ในยุคตื่นทองของสหรัฐอเมริกา ลุง ของ อาร์. ยู. ดาร์บี้ ก็เป็นโรคตื่นทองกับไปเขาเหมือนกัน ลุงของเขาได้ร่วมเดินทางไปทางฝั่งตะวันตกของโคโลราโด เพื่อไปขุดหาทองคำ ด้วยความหวังว่า หากพบสายแร่ทองคำ เขาก็จะได้มีโอกาสพบกับความร่ำรวย

แล้วลุงของเขา ก็ไปขอสิทธิ์ในการขุดทองคำ จากนั้นจึงเริ่มเข้าไปทำงานขุดและร่อนทอง หลังจากทำงานได้หลายสัปดาห์ ลุงของเขาก็พบกับทองคำ สมดังที่ตั้งใจไว้ ลุงของดาร์บี้ จึงรีบปิดเหมืองทองเล็กๆของเขาไว้ก่อน โดยไม่บอกให้ใครรู้ และรีบกลับไปบ้านเกิดที่ วิลเลียมเบิร์ก รัฐแมรีแลนด์ เพื่อบอกเรื่องการพบทองคำครั้งนี้กับ ญาติ และเพื่อนสนิทบางคนของเขา

เมื่อได้ทราบข่าวดีนี้ ลุงของดาร์บี้ พร้อมกับญาติๆ และเพื่อนๆ ก็ได้รวบรวมเงินกัน เพื่อสร้างเหมืองขุดเจาะทองคำ ซึ่ง อาร์. ยู. ดาร์บี้ เองก็ได้ตัดสินใจเข้าร่วมลงทุน
กับลุงของเขาด้วย และเมื่อรวบรวมเงินทุนได้ พวกเขาทุกคนก็รีบกลับไปที่เหมือง เพื่อขุดหาทองคำต่อทันที

แล้วก็เป็นจริงอย่างที่ลุงของเขาพูดไว้ พวกเขาได้พบว่ามี สายแร่ทองคำอยู่ในหลุมแรกที่พวกเขาลงมือขุด ซึ่งเพียงทองคำที่เขาขุดได้ในหลุมแรกนั้น ก็ได้พิสูจน์ว่า พวกเขากำลังจะกลายเป็นหนึ่งใน เจ้าของเหมืองทองคำที่รวยที่สุดในโคโลราโด และถ้าเขาเจอสายแร่ทองคำ เพิ่มขึ้นอีกสักสองสามหลุม แล้วล่ะก็ นอกจากพวกเขาจะสามารถล้างหนี้สินได้ทั้งหมดแล้ว พวกเขาก็จะร่ำรวยมหาศาลทีเดียว

พวกเขาขุดลึกลงไป ขุด ขุด แล้วก็ขุดด้วยความหวังอันเปี่ยมล้น ที่ได้รับจากทองคำในหลุมแรกนั้น แต่แล้ว มันกลับไม่เป็นไปอย่างที่พวกเขาคาดคิดไว้เพราะแม้ว่าพวกเขาจะขุดลึกลงไปสักแค่ไหน มันกลับไม่มีสายแร่ทองคำให้เห็นอีกเลย

แม้กระนั้นก็ตาม พวกเขาก็ยังคงพยายามขุดต่อไปอีก แต่… มันก็ยังคงมีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น มันไม่มีสายแร่ทองคำให้เห็นอีกแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะ…หยุด

พวกเขาได้ตัดสินใจ หยุดขุดหาสายแร่ทองคำ และขายเหมืองทองคำนั้นต่อให้กับพ่อค้าซื้อขายของเก่าคนหนึ่ง ในราคาเพียงไม่กี่ร้อยดอลลาร์ แล้วพากันนั่งรถไฟกลับบ้านอย่างสิ้นหวัง

แต่ พ่อค้าซื้อของเก่าคนนั้น ได้นำเรื่องเหมืองทองที่เขาซื้อมานี้ไปปรึกษากับ “วิศวกรเหมืองทองคำ” ซึ่งเมื่อวิศวกรผู้เชี่ยวชาญในเรื่องเหมืองทองคำ ทำการตรวจสอบแล้วพบว่า…

“สาเหตุที่ีโครงการนี้ล้มเหลวไปก่อน ก็เพราะ เจ้าของเหมืองคนเดิม (ลุงของเขาและพวก) ไม่คุ้นเคยกับ เส้นทางของสายแร่ทองคำ และจากการคำนวณโดยละเอียดแล้ว วิศวกรก็บอกว่า… สายแร่ทองคำอยู่ห่างออกไปจาก จุดที่ ดาร์บี้ หยุดขุด แค่ 3 ฟุต เท่านั้น”

เหมืองแร่ทองคำแห่งนั้น ได้ทำเงินให้พ่อค้ารับซื้อของเก่าคนนั้นนับล้านดอลลาร์ เพียงเพราะเขารู้ว่า… ควรจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนที่จะล้มเลิกความตั้งใจ

หลังจากนั้นมา ดาร์บี้ ได้พยายามทุกวิถีทางที่จะเอาเงินทุนกลับคืนมาให้ได้ แล้วเขาก็ได้มีโอกาสเข้าสู่ธุรกิจขายประกันชีวิต ซึ่งทำให้เขาได้ค้นพบว่า

“ปณิธาน” สามารถแปรเปลี่ยนเป็น “ทองคำ” ได้

แล้ว อาร์. ยู. ดาร์บี้ ก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในงานใหม่ของเขา ดาร์บี้ ได้กลายเป็นหนึ่งในนักขายเพียงไม่กี่คนที่ทำยอดขายประกันชีวิตได้ มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ ต่อปีเพราะ เขายึดมั่นต่อบทเรียนที่ได้เรียนรู้จากเหมืองทองคำ

เขากล่าวว่า… “ผมเคยสูญเสีย ความร่ำรวย ไป เพียงเพราะว่า ผมตัดสินใจ หยุดขุดก่อนที่จะถึง สายแร่ทองคำ เพียง 3 ฟุต เท่านั้นเอง ดังนั้น เมื่อผมขายประกัน ผมจะไม่ยอมหยุดขาย เพียงเพราะลูกค้าตอบว่า ‘ไม่’ โดยเด็ดขาด” Continue reading “ทองคำลึก 3 ฟุต”

หนุ่มบ้านนอก

farmer_hoe_garden_haหนุ่มบ้านนอกยากจนคนหนึ่ง
เสี่ยงโชคเข้ามาหางานทำในกรุงเทพ
ทั้งที่มิได้มีความรู้อะไรเลย

เนื่องจากได้ทราบข่าวที่เพื่อนเล่าให้ฟังว่า
มีโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพ
กำลังรับสมัคร นักการภารโรง ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา

จึงจับรถมากรุงเทพ
และเดินกางแผนที่ (ที่เพื่อนเขียนให้)
สุ่มถามชาวบ้านถึงที่ตั้งของโรงเรียนนั้น
ซึ่งกว่าจะเจอก็เหงื่อตกไปหลายปี๊บทีเดียวแหละ

เมื่อเข้าไปแจ้งความจำนงที่แผนกธุรการ
จึงมีเจ้าหน้าที่มาเรียกให้นั่ง
และยื่นใบสมัครมาให้กรอกข้อความ
นายหนุ่มนั้นก็ยิ้มแหย ๆ
ยกมือไหว้แล้วบอกอ่อย ๆ กับเจ้าหน้าที่ว่า
“… ขอโทษครับพี่
ผม…คือว่า…
ผม…อ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้ครับ… ”
เจ้าหน้าที่ ที่นั่งรับสมัครอยู่นั้น
เปลี่ยนสีหน้าทันที
“… อะไรกัน คิดจะมาสมัครงานที่โรงเรียน
ถึงจะตำแหน่งแค่ นักการภารโรง
ถึงจะไม่ได้ใช้วุฒิการศึกษา
แต่อย่างน้อยก็น่าจะอ่านออก เขียนได้ บ้างแหละ ”
หนุ่มบ้านนอกหน้าซีด
ยกมือไหว้เจ้าหน้าที่ประหลก ๆ
“… ผมไม่รู้หนังสือจริง ๆ ครับ
แต่ช่วยรับผมไว้หน่อยเถิดครับพี่
ให้ผมแบกหามกวาดถูอะไรก็ได้ทุกอย่างครับ ”
“ งั้นก็คงจะไม่ได้หรอก. .. ”
เจ้าหน้าที่เก็บใบสมัคร กับปากกาที่วางไว้ให้ คืนที่อย่างไม่มีเยื่อใย
“… เรามาสมัครงานกับโรงเรียนนะ
อย่างน้อยก็ต้องมีพื้นรู้หนังสือบ้างสิ
ถ้าไม่รู้อะไรเลยอย่างนี้ ก็เสียใจด้วยนะ
กลับไปเถอะ ”


หนุ่มบ้านนอกก็ได้แต่เดินออกจากโรงเรียน
ที่ตั้งความหวังว่าจะได้งานทำนั้นอย่างหงอยเหงา
และเมื่อไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้ในกรุงเทพ
ก็จึงต้องจำใจ กำเงินจำนวนสุดท้าย
จับรถ ซมซานกลับบ้าน อย่างนกปีกหัก
แต่เมื่อกลับถึงบ้าน
จึงนึกขึ้นได้ว่า
ตนเองนั้นเพิ่งได้รับมรดก
เป็นที่ดินสวนรกร้างเท่าแมวดิ้นตาย
มาจากพ่อผู้ล่วงลับไปแล้ว
ด้วยความเจ็บใจ
จึงเกิดเป็นแรงมานะ ให้จับจอบเสียม
หักร้างถางพง ที่ดินสวนเก่าที่รกร้างนั้น

และค่อย ๆ พลิกฟื้นลงร่องผลไม้ไปทีละเล็กละน้อย
อย่างฮึดสู้ชะตาชีวิต ด้วยความอดทน. . .
อาจเป็นบุญในปางบรรพ์
ของพ่อหนุ่มคนนี้ก็ได้
ที่ปรากฎว่า หลายปีต่อมา
สวนผลไม้ที่ลงแรงไว้นั้น
ออกผลอย่างงดงาม
และสร้างผลกำไรมากทบทวีขึ้นทุกปี
กระทั่งสามารถเก็บเงินซื้อที่ดินในแปลงข้างเคียง
ขยายอาณาเขตสวนของตนเอง จนกว้างขึ้น และกว้างขึ้น. . .

หลายสิบปีต่อมา
จากความขยันขันแข็ง มานะอดทน
และประสบการณ์ที่เพิ่มพูน
บัดนี้
หนุ่มบ้านนอกคนนั้น
ก็กลายเป็นชายชรา
ที่คนทั้งเมืองรู้จักในนามของ
พ่อเลี้ยงสวนผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด
และภูมิภาคนั้น

อยู่มาปีหนึ่ง
เมื่อเก็บเกี่ยวผลไม้มากมายมหาศาล
และชำระบัญชีเรียบร้อย
โดยฝีมือของลูกหลานที่เลี้ยงดู ให้การศึกษา
และแจกงานการให้ทำในสวนนั้นแล้ว

พ่อเลี้ยงชราก็หอบเงินเป็นฟ่อน
นั่งรถเข้ามาในตัวอำเภอ
เพื่อขอเปิดบัญชีกับธนาคารเป็นครั้งแรก
เมื่อแจ้งนาม และความจำนงกับธนาคารแล้ว
พนักงานถึงกับตื่นเต้นกันยกใหญ่
ผู้จัดการสาขาถึงกับเดินมาต้อนรับด้วยตัวเองเลยทีเดียว
เมื่อพนมมือไหว้ลูกค้าใหญ่ รายใหม่ อย่างนอบน้อมแล้ว
ผู้จัดการก็แตะข้อศอก
ยื่นใบเปิดบัญชีพร้อมปากกาปลอกทอง
ให้กับพ่อเลี้ยงชราอย่างพินอบพิเทา
“ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ
ทางเรารู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่ง
ที่ได้มีโอกาสบริการพ่อเลี้ยงในครั้งนี้
รบกวนกรอกใบเปิดบัญชีด้วยครับ ”
พ่อเลี้ยงชราส่ายหน้าช้าๆ
ยื่นปากกาปลอกทองคืนให้กับผู้จัดการ
พร้อมกับยิ้มให้ พลางกล่าวเนิบๆ
“ พ่อหนุ่มช่วยกรอกรายการให้ลุงทีเถิด
ลุงอ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้หรอก… ”
ผู้จัดการรับปากกาคืนมาโดยอัตโนมัติแบบงงสุดขีด
พลางค่อยๆอ้อมแอ้มถามลูกค้ารายใหญ่ (มาก ) อย่างเกรงใจสุดๆ
“… เอ่อ…ผมไม่เคยทราบมาก่อนเลยครับ…
… เอ่อ…ขออนุญาตเรียนถามพ่อเลี้ยงด้วยความเคารพนิดหนึ่งเถิด ครับ
คือ…พวกเราในจังหวัดนี้ก็ทราบกันดีอยู่
ถึงชื่อเสียงของพ่อเลี้ยง
ในกิจการสวนผลไม้ที่ใหญ่โตและเจริญก้าวหน้าที่สุดในภูมิภาคนี้
แต่… ” ผู้จัดการ ชะงัก ด้วยความเกรงใจ
และในที่สุดก็หลุดปากถามออกมา
ด้วยความฉงนที่มิอาจเก็บไว้ได้จริงจริง
“… แต่ พ่อเลี้ยงอ่านหนังสือไม่ออก
และเขียนหนังสือไม่ได้ หรือครับ…. ”
“… พ่อหนุ่ม ” พ่อเลี้ยงชรายิ้มให้ผู้จัดการสาขาของธนาคารอย่างใจดี
“… ถ้าลุงอ่านหนังสือออก และเขียนหนังสือได้น่ะนะ… ”
แกถอนหายใจยาว
ก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้ผู้จัดการถึงกับอึ้งไปนานเลยว่า

“… ป่านนี้ ลุงก็คงได้เป็นภารโรงไปแล้วแหละ…"

กฏของ Amazon.com Associates Program (Agreement, 2010)

Amazon.com Associates Program Operating Agreementช่วงนี้เห็นมีคนโดนแบน Account Amazon กันเยอะมากๆ เสี่ยวโดนแบนไปตามๆ กันเลยครับ ปกติ Amazon จะแบน Account ยากมากๆ ถ้าเราไม่ได้ไปทำผิดกฏอะไรก็คงสบายใจกันได้ครับ แต่กฏเขามันเยอะจริงๆ ครับ พอดีเพิ่งนึกได้ว่าผมเองก็แปลกฏของ Amazon ไว้สมัยทำโปรเจคจบ เลยเอามาแบ่งปันกัน

แปลจากกฏที่ Update วันที่ 1 สิงหาคม 2553
Download Amazon.com Associates Program (Agreement, 2010)

วิถี ซุนโงคู

วันนี้ขอหยิบบทความดีๆ จากบร๊ะเจ้าโจ๊ก โซคูล มาให้อ่านกันครับ ผมชอบพระเจ้าตรงที่พระเจ้าจะมีมุมมองแปลกๆ เสมอ บทความนี้บร๊ะเจ้าโจ๊กได้นำ “วิถีซุนโงคู” มาเปรียบเทียบกับชีวิตประจำวันเขียนไว้ใน Facebook เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2011

วิถี ซุนโงคู
ผมเคยเห็นคนจำนวนมากเอาเรื่องราวต่างๆมาประยุกต์ใช้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสามก๊ก ที่นักธุรกิจนักการเมืองชอบเอาวิถีทางมาเป็นแบบอย่างเพื่อฮ่ำหั่นกัน เพราะชีวิตคนเราบางทีมันเครียด ต้องมีฮีโร่ ต้องมีแบบอย่างในการดำเนินชีวิต ว่ามีคนเขาลำบากกว่าแต่ผ่านไปได้ มีคนเค้าเจอเรื่องยากกว่าแต่ผ่านไปได้ ลำพังตัวเองอาจมีขวัญและกำลังใจไม่พอ

ถ้าถามตัวผมเอง ว่าผมยืนอยู่ทุกวันนี้ได้อย่างไร ฮีโร่ ของผม ไม่ใช่ ขงเบ้ง ไม่ใช่เล่าปี่  ไม่ได้มาจากหนังสือชีวิตเล่มใด แต่เขาคนนั้นคือ…

ซุนโงคู!!

เจ็ดข้อคร่าวๆ กับวิถีซุน โงคูคือ

  1. ไม่ผิดที่ไม่เหมือนใคร
    ในช่วงเวลาอันโดนเดี่ยวไร้คนเข้าใจ ผมแอบให้กำลังใจตัวเองเสมอ ตั้งแต่เด็กที่ไม่ว่าจะเข้าโรงเรียนไหนก็เป็นแกะดำ  อ่อนแอ เรียนโง่ ทำตัวไม่เหมือนคนปรกติทั่วๆไป จนเพื่อนต่างมองว่าเป็นตัวประหลาด ผมไม่เคยท้อแท้ และคิดเสมอว่าตัวเองถูกส่งมาจากดาวไซย่า มาจากชนเผ่านักรบที่ยิ่งใหญ่ แต่สมองกระทบกระเทือนเช่นเดียวกับซุนโงคู ตัวเราเองจึงลืมบางสิ่งบางอย่างไป แต่เราต้องเป็นคนที่ยิ่งใหญ่แน่ๆ  ดังนั้นหากเพื่อนๆรู้สึกเข้ากับใครไม่ได้ หรือรู้สึกมีปมด้อยจงคิดซะว่า เรามาจากดาวไซย่าที่ยิ่งใหญ่ เราจึงไม่เหมือนใคร และอย่าสงใสถ้าตามหาคนที่เหมือนเราไม่เจอ เพราะดาวไซย่า แตกไปแล้ว!
  2. ปีศาจที่แอบแฝง
    และเมื่อใดที่เราทำผิดพลั้งโดยไม่ตั้งใจจงอย่าโทษตัวเองและหาทางออกซะ เพราะชาวไซย่านั้นมีปีศาจลิงยักแฝงอยู่ในร่างทุกคน

    เมื่อ ใดที่เห็นพระจันทร์เต็มดวงเราจะกลายร่างและทำลายทุกอย่าง ไม่ต่างอะไรกับมนุษย์ที่เห็นสิ่งที่อยากได้เมื่อไรก็จะแยกแยะผิดถูกชั่วดี ไม่ได้ จนทำสิ่งที่ผิดพลาดลงไป
    พอมารู้ตัวอีกทีเราอาจสูญเสียสิ่งสำคัญไปแล้วก็ได้ จากปีศาจชั่วที่ตื่นขึ้นมาในยามที่เราอีกคนกำลังหลับไหล
    ตำราดราก้อนบอลของ อ.โทริยาม่า อากิร่า ได้สอนพวกเราไว้แล้วว่า วิธีทำลายปีศาจนั้นหาใช่การทำลายดวงจันทร์ไม่ แต่คือการตัดหางลิงของเราออก ฆ่าตัดตอน ทำลายปีศาจที่อยู่ในตัวของเราเอง เมื่อตัวเราไร้ซึ่งปีศาจร้าย ต่อให้จันทร์สาดแสงแรงเพียงใด คงมิอาจทำให้เราขาดสติลงเป็นแน่แท้

  3. เปลี่ยนมิตรเป็นศัตรู
    ซุนโงคูไม่เคยจองเวร นี่คือตัวอย่างจากดราก้อนบอลอย่างนึงซึ่งน่าเอามาใช้ในชีวิตจริงที่สุด นั่นคือ ต่อให้พบกับศัตรูที่ชั่วร้ายแค่ไหน โงคู จะไม่เคยจองเวร ยิ่งเก่งแค่ไหนก็ยิ่งขวนขวายเอาชนะ แต่ไม่มีจิตใจที่คิดอาฆาต หรืออยากฆ่าให้ตาย ถ้าเราสังเกตุให้ดีโงคูเปลี่ยนมิตรเป็นศัตรูมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น ยามูชา พิคโกโร่ เบจิต้า หรือไม่เว้นกระทั่ง จอมมารบู เหมือนกับชีวิตจริง แม้คนรอบข้างจะร้ายกาจแค่ไหน แม้นถ้าเป็นคนอื่นอาจไม่ให้อภัย แต่หากเราทำได้อย่างซุนโงคู เราจะมีแต่มิตร และ ศัตรูที่เปลี่ยนมาเป็นมิตร  ในขณะที่คนทั่วไปมีทั้งมิตรและศัตรู และจงอย่าลืมว่าเมื่อใดเราได้ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดมาเป็นมิตร ความร้ายกาจนั้นอาจช่วยปกป้องเราในยามคับขันได้เช่นกัน
  4. ยิ่งล้มยิ่งเก่ง
    อย่ากลัวที่จะต้องเจอกับมรสุมในชีวิต เหมือนกับชาวไซย่าที่หากเจ็บปวดปางตายแล้วสามารถรอดชีวิตมาได้ จะมีพลังเก่งกาจเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่คล้ายคลึงชีวิตจริง ที่คนเราเวลาเจ็บช้ำอาจร้องไห้อย่างแสนปวดร้าว แต่หากเจออย่างเดิมซ้ำๆ ก็จะชินชาทนทาน จนต่อสู้กับมันดั่งเป็นเรื่องเล็กน้อย รู้วิธีที่จะต่อสู้กับศัตรูทีี่เคยทำให้เราพลาดท่า และหากครั้งนี้เจ็บกว่าเดิมแล้วเรายังผ่านไปได้ล่ะก็ เราก็จะเก่งทวีคูณขึ้นไปเรื่อยๆ จนอาจไม่มีศัตรูที่สมน้ำสมเนื้ออีกเลยก็ได้ หรือที่ชาวโลกชอบพูดกันว่า ผ่านมาเย้ออออ เจ็บมาเย้ออออ
  5. ซุปเปอร์ไซย่า
    การจะเป็นซุปเปอร์ไซย่านั้น ต้องระเบิดพลังออกมาถึงขีดสุด แต่มีสติควบคุมได้
    สาเหตุที่เบจิต้าได้เป็นซุปเปอร์ไซย่าทีหลังโงคู นั่นเพราะว่าเบจิต้ามีแต่ความโกรธ และพลังทำลายล้าง แต่ขาดซึ่งสมาธิและความสุขุมเยือกเย็น เพราะซุปเปอร์ไซย่าต้องระเบิดพลังออกมาถึงขีดสุดแต่สามารถมีความนิ่งอย่าง สูงสุดในเวลาเดียวกัน
    ชาวไซย่าจึงจะเป็นสุดยอดนักรบ ในตำนานได้ นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ใช้ได้กับหลายๆเรื่องราวในชีวิตคน ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ นักกีฬา หรือแม้กระทั่งคนทุกคน จำไว้เลยว่า
    สุดยอดนักรบต้องระเบิดพลังออกมาพร้อมกับการควบคุมสติสมาธิและมีความสงบนิ่ง แต่หากเราคิดว่าเราเก่งและระเบิดพลังออกมาด้วยความอยากเอาชนะ ความอิจฉาริษยา ความอยากได้อยากมี ความโลภ หรือความโกรธนั้น แม้แต่ตัวเราเองเราก็ยังชนะไม่ได้
  6. กินเลอะ
    หากใครมองว่าเรากินมูมมามจงอย่าได้แคร์ เพราะซุนโงคูกินเลอะกว่า  (เริ่มทุเรศและ)
  7. การขอพรที่ไม่มีสิ้นสุด
    ถึงแม้เราจะไขว่าคว้าดราก้อนบอลทั้งเจ็ดลูกมาสักกี่ครั้ง มันก็พุ่งขึ้นฟ้าและกระจัดกระจายหายไปเสมอ
    นี่เป็นเรื่องเดียวกับกฏไตรลักษณ์ของศาสนาพุทธคือมีเกิด มีอยู่ และดับไป สิ่งใดก็ตามในชีวิตที่เราไขว่คว้ามาด้วยความยากลำบาก มันไม่มีวันอยู่ตลอดไป พอเราขอพรไปหนึ่งข้อ วันต่อมาก็มีข้อใหม่ที่อยากขอ แล้วเราก็ตามหามันไม่มีที่สิ้นสุด
    ไม่ว่าจะอาชีพการงาน หรือทุกสิ่งที่มีการแข่งขัน บอกไว้ตรงนี้เลย ว่าใครมีความสุขกับการแข่งขันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ละก็บั้นปลายชีวิตจะหาความสุขไม่เจอ ไม่ต่างจากคนแก่ๆที่พยายามดิ้นรนเพื่อทรัพย์สมบัติ แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้มันเลย
    เปรียบกับชาวสวนที่ปลูกผักไปวันๆ ยังมีความสุขกับชีวิตมากกว่า
    ดังนั้นผู้ที่เคยไล่ล่าฝัน ไล่ล่าดราก้อนบอลทั้งเจ็ดลูก ไม่ว่าใครจะเคยได้มาครบแล้วครั้งนึง หรือใครที่ได้ยังไม่ครบ จงมีความทรงจำดีๆกับการล่าฝัน แต่อย่าจมอยู่กับฝันจนไม่มีชีวิตจริง  เพราะต่อให้เราเก่งกาจหรือปกป้องโลกไว้กี่ครั้ง คนที่มีความสุขที่สุดก็คือชาวโลกธรรมดาทั่วๆไปนั่นเอง

Joke So Coolและนี่ก็เป็นแบบย่อๆนะครับที่ผมเรียบเรียงวิถีซุนโงคูมาให้อ่านกันแบบคร่าวๆ การเป็นนักรบที่เก่งกาจนั้น หากประกอบไปด้วยความ สุขมเยือกเย็น เป็นคนดีมีน้ำใจ พูดจาตรงไปตรงมาไม่ใส่หน้ากาก ยามรบรบขาดใจ ยามจบสงครามไม่ผูกใจแค้น คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว มีความสุขในการได้ช่วยเหลือผู้อื่น ร้อนแรงที่สุดและเยือกเย็นที่สุดในเวลาเดียวกัน นั่นแหละคือซุปเปอร์ไซย่าอย่างแท้จริง หวังว่าเรื่องนี้จะช่วยให้คนที่ต้องต่อสู้กับชีวิตอันเหนื่อยยาก มีพลังจากดาวไซย่ากลับติดตัวไปบ้างนะครับ ส่วนใครที่มีปัญหาชีวิตอะไร ที่อยากได้ทางออกในรูปแบบ วิถี ซุนโงคู ถามกันมาเยอะๆนะครับ จะรวบรวมให้ในตอนถัดไปครับ

และข้อสุดท้าย ซุนโงคู ของแท้ต้องกลัวเมียนะครับ ต่อให้เราเก่งมาจากไหน ล้มศัตรูที่ยิ่งใหญ่คับจักรวาล แต่ยอมอ่อนข้อให้เกียรติแม่ของลูก เจริญทุกคนครับ

Continue reading “วิถี ซุนโงคู”

“การลาออกครั้งสุดท้าย”

The Last Resignmentหลังจากที่เพื่อนโทรมาชวนว่าไปร้านหนังสือกัน ผมจึงขอพี่ๆ แนะนำหนังสือน่าอ่าน มีพี่คนหนึ่งส่งลิงค์นี้ให้กับผม “การลาออกครั้งสุดท้าย The Last Resignment” มาให้ผมในเวลา 15.07 น. ของวันที่ 5 กันยายน 2554 หลังจากกวาดสายตาอันรวดเร็วอ่านคำนำหนังสือ “การลาออกครั้งสุดท้าย The Last Resignment ชีวิต จริงของชายหนุ่มผู้ว่างงานโดยสมัครใจ เขาไม่ได้มีเพียงแผนการที่จะไม่อดตาย แต่ยังตั้งใจที่จะอยู่อย่างมั่งคั่ง เพื่อที่จะไม่ต้อง ‘ลาออก’ จากที่ไหนอีก" ผมใช้เวลา 2 วินาทีตอบพี่เขาไปว่า "น่าสนใจมากกกกก!!!"

คุณภาณุมาศ ได้เล่าถึงประสบการ์ณชีวิตในมุมมองของเขา ทั้งการทำงาน การเก็บเงิน ด้านสุขภาพ การใช้ชีวิต ฯลฯ เขาคือพนักงานษริษัทธรรมดาๆ หนึ่งคนที่วันหนึ่งค้นพบว่า การว่างงาน นั้นก็เป็นชีวิตที่ดีได้เช่นกัน เขาจึงได้เริ่มต้นเขียนลายแทงขุมทรัพย์เส้นทางสู่การว่างงานขึ้น จากนั้นก็ได้เริ่มต้นเดินทางตามลายแท่งที่ตนวาดไว้ ระหว่างทางที่เขาเดินไปนั้นมันไม่ได้ง่ายเลยที่เขาจะเป็นผู้ว่างงานได้ เขาเจออุปสรรคมากมายที่จะทำให้เขาหยุดเดินทาง แต่เขาก็สามารถผ่านมันไปได้..

เขาได้รู้จักคำว่า “อิสระ” อย่างแท้จริง ชีวิตว่างงานไม่ใด้มีแค่อิสระอย่างที่เขาคิดตอนแรก มันก็ยังมีอึดอัดคับใจในแบบของมัน อิสระในมุมมองของคุณภาณุมาศจึงไม่ใช่อยู่ว่างๆ แล้วทำตามใจตัวเองไปเรื่อยเปื่อย หลังจากที่ออกมาใช้ชีวิตอย่างอิสระประสบการ์ณบ้างอย่างทำให้เขาได้เรียนรู้คุณค่าของคำว่า “การทำงาน” อย่างที่เขาไม่เคยมองมาก่อน

หนังสือเล่มนี้ได้บอกเล่าประสบการ์ณ ชีวิตคนเมืองในกรุงเทพฯ ที่ต้องเจอปัญหารถติด กลับบ้านดึก ความเครียดที่ได้จากการทำงาน เงินเดือนไม่พอใช้ และอีกหลายๆ ปัญหา

คงอยากรู้ใช่ไหมละครับว่าเป็นยังไง ลองตามอ่านในหนังสือเล่มนี้ซิครับ

“การลาออกครั้งสุดท้าย The Last Resignment”

The Last Resignment 2

Continue reading ““การลาออกครั้งสุดท้าย””

คนที่ชนะ ก็คือ คนที่คิดว่าเขามีความสามารถ

Napoleon Hill

ถ้าท่านคิดว่าท่านพ่ายแพ้ ท่านจะพ่ายแพ้
ถ้าท่านคิดว่าท่านไม่กล้า ท่านจะไม่กล้า
ถ้าท่านต้องการที่จะชนะ แต่ท่านคิดว่าท่านไม่อาจชนะ
เกือบจะแน่นอนว่า ท่านจะไม่ชนะ

ถ้าท่านคิดว่าท่านย่อยยับ ท่านจะย่อยยับ
เพราะว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมาในโลกนี้
ความสำเร็จ เริ่มต้นด้วยความต้องการของคนผู้นั้น

ทั้งหมด มันขึ้นอยู่กับท่าทีของจิตใจ
ถ้าท่านคิดว่า ท่านมีความสามารถไม่พอ ท่านจะเป็นเช่นนั้น
ท่านจะต้องคิดให้สูง เพื่อที่จะยกตัวของท่านให้สูงขึ้น

ท่านจะต้องเชื่อถือในตัวของท่านเองเสียก่อน
ก่อนที่ท่านจะชนะรางวัล
สงครามชีวิต มิได้ขึ้นอยู่กับผู้ที่แข็งแรงกว่า หรือ เร็วกว่าเสมอไป
แต่ในไม่เร็วก็ช้าคนที่ชนะ
ก็คือคนที่คิดว่า เขามีความสามารถ

Napoleon Hill

Pumped Up Kicks – Foster The People

Pumped Up Kicks

"Pumped Up Kicks" เป็นเพลงจากศิลปินแนว ป๊อปอินดี้ฟอสเตอร์ สำหรับเพลงนี้ออกอากาศทางสถานีวิทยุตั้งแต่เดือนกันยายน 2010 แล้วครับ แต่เพิ่งมาดังจนไต่ Billboard charts มาอยู่ Top 10 ได้นี้เองครับ

ชื่อเพลง Pumped Up Kicks
อัลบั้ม Foster The People – EP
ศิลปิน Foster The People

เนื้อเพลง Pumped Up Kicks

Robert’s got a quick hand.
He’ll look around the room, he won’t tell you his plan.
He’s got a rolled cigarette, hanging out his mouth he’s a cowboy kid.
Yeah he found a six shooter gun.
In his dads closet hidden in a box of fun things,
and I don’t even know what.
But he’s coming for you, yeah he’s coming for you.

[Chorus x2:]
All the other kids with the pumped up kicks you’d better run,
better run, outrun my gun.
All the other kids with the pumped up kicks you’d better run,
better run, faster than my bullet.

Daddy works a long day.
He be coming home late, yeah he’s coming home late.
And he’s bringing me a surprise.
‘Cause dinner’s in the kitchen and it’s packed in ice.
I’ve waited for a long time.
Yeah the slight of my hand is now a quick pull trigger,
I reason with my cigarette,
And say your hair’s on fire, you must have lost your wits, yeah.

[Chorus x2:]
All the other kids with the pumped up kicks you’d better run,
better run, outrun my gun.
All the other kids with the pumped up kicks you’d better run,
better run, faster than my bullet.

[Whistling]

[Chorus x3:]
All the other kids with the pumped up kicks you’d better run,
better run, outrun my gun.
All the other kids with the pumped up kicks you’d better r