พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic commerce หรือ E-Commerce) สามารถเริ่มต้นได้ง่าย เนื่องจากปัจจุบันนั้นมีหนังสือ หน่วยงาน เว็บไซต์ หรือ Forums ต่างๆ มากมายให้ความรู้ ซึ่งสื่อเหล่านั้นก็มักจะกล่าวถึง ทางเลือก, รูปแบบการทำ, ประโยชน์, ข้อดีข้อเสีย, เทคนิคการทำให้ประสบความสำเร็จ, การทำการตลาด อื่นๆ ใดๆ สิ่งที่ทำให้ E-Commerce นั้นเป็นที่นิยมนั้นมีหลายปัจจัยดังต่อไปนี้
ปัจจัยที่ทำให้ผู้ประกอบการสนใจทำธุรกิจ E-Commerce
- เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า ช่วยให้ผู้ประกอบการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าออกไปโดยไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน ทำให้ผู้ประกอบการเพิ่มยอดขายและลดต้นทุนการทำร้านค้าได้
- ไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานเฝ้าตลอด หากคุณมีร้านค้าที่ต้องวางสินค้าจำหน่ายแล้ว นอกจากค่าใช้จ่ายในการดูแลร้านของคุณที่สูง หากร้านใหญ่ก็ต้องมีพนักงานขายที่คอยบริการลูกค้า การนำสินค้าเข้ามาอยู่ในรูปแบบ E-Commerce นั้นจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานเฝ้าร้านได้
- ร้านเปิดตลอดเวลา ตราบใดที่เว็บไซต์ของคุณยังออนไลน์อยู่นั้น ลูกค้าสามารถเข้าร้ามค้าออนไลน์ของคุณได้เสมอ คุณไม่จำเป็นต้องปิดร้าน ลูกค้าก็สามารถดูข้อมูลสินค้า บริษัท ร้านค้า ของคุณได้
- สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมาย (Target Groub) ได้ตรงตามต้องการ สื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้นมีหลากหลายรูปแบบ คุณสามารถเลือกสื่อที่จะช่วยทำการตลาดให้ตรงต่อความต้องการของคุณ และตรงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ อาทิ Social Network, E-mail, SEO, Pay Pey Click เป็นต้น
ปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าสนใจซื้อสินค้า
- เปรียบเทียบราคาและบริการหลังการขายได้ง่าย สามารถเปรียบเทียบราคาสินค้าและบริการจากเว็บไซต์ต่างๆ ได้ง่าย ลูกค้ามักจะหาข้อมูลการซื้อสินค้าก่อนซื้อเสมอ ราคาที่ราคาต่ำกว่าร้านค้าออนไลน์หรือร้านค้าทั่วไป จะเป็นจุดดึงดูดลูกค้าได้ดี บริการหลังการขาย การขอบคุณลูกค้าก็จะช่วยให้ลูกค้ากลับมาซื้อของในเว็บไซต์คุณอีกครั้ง
- ลดเวลาการเดินทางไปซื้อสินค้าในร้านค้าหรือห้าง การซื้อสินค้าผ่านร้านค้าออนไลน์จะช่วยให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังร้านค้า หรือห้าง เพื่อทำการซื้อสินค้าที่ต้องการ นอกจากนั้นยังช่วยประหยัดค่าเดินทางอีกด้วย
- สามารถรับสินค้าได้ทันที (ประเภทดิจิตอล เช่น MP3, E-book, Program)
การดำเนินธุรกิจ E-Commerce นั้นได้ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยเสมอ นอกจากปัจจัยดังที่กล่าวมาแล้ว การทำ E-Commerce ยังต้องให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้
- การเลือกสินค้าที่จะนำมาขาย ควรจะเป็นสินค้าที่ตลาดมีความต้องการอยู่แล้ว เพราะจะทำให้ขายได้ง่าย ส่งผลให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณมีเงินหมุนเวียนที่ดี ไม่ติดขัด และในเว็บไซต์ของคุณควรจะมีสินค้าให้ลูกค้าได้เลือกเพื่อเป็นตัวช่วยตัดสินใจ
- การตลาด ควรมีการวางแผนการตลาดที่ดี เลือกช่องทางที่เหมาะสมกับคุณในการทำการตลาด จะใช้ SEO, SEM, Banner ก็อยู่ที่กลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการ ควรมีการวิเคราะห์คู่แข่งทางการตลาดก่อน สำรวจราคาสินค้าในตลาดว่ามีราคาเท่าไร คุณจะขายเท่าไร และคุณจะมีกำไรเหลือเท่าไร
- สร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ ควรมีการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ โดย แจ้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้สะดวก นำรางวัลที่เคยได้รับ คำชมของลูกค้า ใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องในการเขียนคำอธิบายต่างๆ มีชื่อโดเมนที่เป็นของคุณเอง เลือกใช้ Hosting ที่สามารถเข้าเว็บไซต์ได้โดยไม่มีปัญหา มีข้อมูลที่ใหม่อยู่เสมอ และออกแบบเว็บไซต์ให้ดูน่าเชื่อถือ เป็นต้น
- การขนส่งสินค้า ควรชี้แจ้งเรื่องค่าขนส่งที่จะเกิดขึ้นในการซื้อสินค้าของลูกค้าให้ชัดเจน มีทางเลือกให้กับลูกค้าที่ต้องการสินค้าด่วน หรือต้องการให้สินค้ามีการลงทะเบียน เพื่อให้พนักงานไปรษณีย์ส่งสินค้าเมื่อมีคนอยู่ ทำระบบเช็คสถานะการส่งสินค้าเพื่อให้ลูกค้าทราบว่าตอนนี้สินค้าอยู่ที่ไหน
- การบริการหลังการขาย สอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในการสั่งซื้อสินค้า รับสินค้า หรือการทำเว็บไซต์ กับลูกค้าเพื่อหาแนวทางปรับปรุงแก้ไข ส่งคำขอบคุณและคำเชิญให้ลูกค้ามาใช้บริการอีกครั้งเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ผ่าน E-mail, SMS, จดหมาย เป็นต้น
- ช่องทางการชำระเงิน อธิบายถึงวิธีการชำระเงิน ช่องทางการชำระเงิน อย่างละเอียดภายในเว็บไซต์ รวมไปถึงค่าธรรมเนียมที่ลูกค้าอาจจะเสีย (หากมี) และความปลอดภัยในการชำระเงินภายในเว็บไซต์ของคุณ
เว็บไซต์ที่มีเนื้อเกี่ยวข้อง